สรุปหนังสือ Twists and Turns คิดเปลี่ยนในโลกหักมุม เข้าใจการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สร้างโอกาสใหม่ในโลกที่ไม่เหมือนเดิม สันติธาร เสถียรไทย เขียน

Twists and Turns คิดเปลี่ยนในโลกหักมุม

สรุปหนังสือ Twists and Turns คิดเปลี่ยนในโลกหักมุม เขียนโดย ดร.ต้นสน สันติธาร เสถียรไทย หนึ่งในนักเขียนที่ผมชื่นชอบในผลงานจากเล่มก่อนหน้า Futuration เปลี่ยนปัจจุบันทันอนาคต มาเล่มนี้บริบทการเล่ามาจากโลกยุค ChatGPT หรือ Generative AI ยุคที่เราเคยแค่จินตนาการว่ากว่าคอมพิวเตอร์จะทำงานระดับนี้ได้น่าจะต้องใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่าสิบปี แต่ดูเหมือนว่าโลกเราพัฒนาไปได้เร็วกว่าที่คิดจนมันเกิดขึ้นแล้วในวันนี้

วันที่เราสามารถพูดคุยโต้ตอบกับคอมพิวเตอร์ด้วยภาษามนุษย์ปกติ คอมพิวเตอร์หรือ AI สามารถตอบคำถามเราได้เสมือนอับดุล หรือ Jarvis ใน IRON MAN จากสิ่งที่เคยเห็นผ่านภาพยนต์เรื่อง HER ที่มนุษย์เริ่มหลงรัก AI ที่มีแค่เสียงและเห็นโลกผ่านกล้อง แต่ก็สามารถเข้าใจไปพร้อมกันนั้นเกิดขึ้นแล้ว

ดูเหมือนโลกเรานับจากนี้ไปจะเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดในระยะเวลาอันสั้นมากขึ้นเรื่อยๆ เรามาลองดูบางช่วงบางตอนบางแง่บางมุมที่ผมเห็นว่าน่าสนใจในหนังสือเล่มนี้กันนะครับ

Digital อิ่มตัว

จากกระแส Work From Anywhere หลังเชื้อไวรัสโควิด19 เริ่มซา ที่เราคาดว่าน่าจะเป็นกระแสหลักของการทำงานในโลกยุคหลังโควิดนั้นกลับไม่เป็นดังที่คิดเท่าไหร่ ก่อนหน้านี้เราเคยทำงานจากที่บ้าน 100% ก็มีบางคนถวิลหากันพบกันที่ออฟฟิศบ้าง จนทำให้เกิดการแวะมาที่ออฟฟิศสักสัปดาห์ละ 1-2 วัน แต่ดูเหมือนวันนี้จำนวนวันที่ต้องกลับเข้าออฟฟิศแทบจะ 5 วันเต็มเสมือนปกติก่อนหน้าจะเกิดโควิด19

บริษัทที่เคยมีมูลค่าหุ้นพุ่งทะยานในเวลานั้นกลับมีมูลค่าค่อยๆ ลดลงจนเข้าสู่ยุคน้ำแข็ง สตาร์ทอัปบางตัวถึงขั้นไปต่อไม่ไหวต้องปิดตัวไปก็เยอะ และนี่ก็มาจากการกดดันที่ต้องเร่งเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการให้ได้มากที่สุด เพราะจากช่วงโควิดที่เคยมีผู้ใช้บริการพรวดพราด แต่ดูเหมือนว่าหลังโควิดมาจำนวนผู้ใช้บริการจะหยุดนิ่งอย่างเห็นได้ชัด แถมยังมีบริการดิจิทัลบางส่วนมีผู้ใช้ลดลงทั้งในแง่ของจำนวนไปจนถึงระยะเวลาการใช้งาน

เรื่องนี้ก็เหมือนกับที่ผมติดตามรายงาน Thailand Digital Stat จาก We Are Social เป็นประจำทุกปีก็เริ่มพบสัญญาณนี้ตั้งแต่ปี 2022 จำนวนคนออนไลน์ไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดูเหมือนว่าใครทำ Digital Product จะต้องมาเน้นการเพิ่ม Customer Lifetime Value จากการทำ Data Monetization เป็นกลยุทธ์หลักแทนแล้วครับ

Digital Business จาก Data

และจากที่ผู้คนแห่กันมายังดิจิทัลหรือออนไลน์ในช่วงการล็อคดาวน์ที่ผ่านมา ทำให้ผู้ให้บริการดิจิทัลทั้งหลายเต็มไปด้วยดาต้ามากมาย จนคนไม่เคยซื้อของออนไลน์ก็ต้องหัดซื้อ จนวันนี้การสั่งของออนไลน์แล้วมีคนมาส่งที่บ้านกลายเป็นเรื่องปกติไม่ได้ลดลงกลับไปเหมือนก่อนหน้า

และจากสิ่งที่พูดมาก็ทำให้เกิดธุรกิจ Digital Lending หรือการให้บริการกู้ยืมเงินโดยไม่ต้องมีเอกสารค้ำประกัน แค่ขอดู Digital Footprint หรือ Data หน่อยว่าเป็นอย่างไร เพียงเท่านี้ก็สามารถประเมินวงเงินกู้ให้ได้ง่ายๆ ในเวลาไม่กี่นาทีจริงๆ ส่งผลให้ผู้คนจำนวนมากสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ในระยะเวลาอันสั้น แต่ในขณะเดียวกันผู้ปล่อยกู้ก็มีสัดส่วนการได้รับเงินคืนที่สูงกว่าเดิม

ทั้งหมดนี้ก็มาจากการใช้ Algorithm ปรับจูนโมเดลคำนวนความเสี่ยงของผู้กู้แต่ละรายโดยใช้ Data หรือ Digital Footprint จริงๆ อีกทีครับ

ดังนั้นใครยังไม่เริ่มคิดหาทางใช้ดาต้าให้ดีกว่านี้ คุณอาจไม่เหลือที่ให้ไปต่อแล้วในอีกสองปีข้างหน้าก็ได้

Redefine New Creativity นิยามใหม่ความสร้างสรรค์

เพราะวันนี้ Generative AI เช่น ChatGPT สามารถทำสิ่งที่เราเคยคิดว่ามีแต่มนุษย์เท่านั้นที่ทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกลอน แต่เพลง เขียนหนังสือ หรือแม้แต่ทำงานศิลปะ นั่นคือสิ่งที่เราเรียกว่า Creativity มันคือการคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจาหัวสมองของเราเอง แต่ดูเหมือน Generative AI จะสามารถทำได้ดีไม่แพ้มนุษย์ หรือถ้าเอาเข้าจริงจะเรียกว่าดีกว่ามนุษย์หลายคนที่ทำงานแบบส่งๆ เช้าชามเย็นชามด้วยซ้ำ

ดร.ต้นสน บอกว่าผู้เขียนหนังสือ Tomorrowmind ได้จำแนกความสร้างสรรค์ไว้เป็น 4 กลุ่ม

  1. Connect the Dots สามารถมองเห็นความเหมือนในความต่าง เห็นจุดเชื่อมโยงในสิ่งที่ดูไม่เกี่ยวกัน
  2. สามารถมองเห็นความแตกต่างในความเหมือน แยกแยะสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นก้อนเดียวกันออกมาได้เป็นชิ้นเล็กๆ ย่อยๆ
  3. สามารถดูออกว่าสิ่งที่ดูสำคัญอาจไม่สำคัญ และสิ่งที่ดูไม่สำคัญ จริงๆ แล้วอาจสำคัญ
  4. สามารถจินตนาการสิ่งที่จินตยาการยาก และไม่อาจเคยเห็นมาก่อน

ส่วนตัวผมชอบนิยามความคิดสร้างสรรค์แบบใหม่ๆ นี้ เพราะมันแทบจะไม่เกี่ยวกับการลงมือทำ แต่มันเกี่ยวกับการใช้ Critical Thinking จริงๆ

เมื่อการลงมือทำไม่สำคัญเท่าวันวาน เพราะเรามี Generative AI ที่สามารถช่วยทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะแต่งเพลง วาดรูป สร้างภาพ หรือสร้างวิดีโอทั้งเรื่องขึ้นมาใหม่ เราอยู่ในยุคที่คำว่า “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้” เกิดขึ้นจริงแล้ว

นับจากนี้ไปเราจะแข่งกันว่าใครสามารถคิดในสิ่งที่คนอื่นคิดไม่ถึงได้ก่อน

จากเสือตัวที่ 5 สู่ตัวประกอบของอาเซียน

ดูเหมือนประเทศไทยนับจากนี้ไปจะค่อนข้างวิกฤต จากเดิมเศรษฐกิจเราเคยดี เราเคยเป็นหนึ่งในพี่ใหญ่ภูมิภาคอาเซียนนี้ แต่การเข้ามาของเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า EV ส่งผลต่อธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิตรถน้ำมันเดิมไม่น้อย

ส่วนในด้านของอุตสาหกรรมสีเขียวเราก็ได้รับเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติที่น้อยมาก ดูเหมือนว่าในอุตสาหกรรมใหม่ๆ ประเทศไทยค่อยๆ ถูกลืมจากนักลงทุนไปเรื่อยๆ

แต่เรื่องนี้ก็มีทางออก ถ้าเราสามารถสำนึกตัวได้ไวและเปลี่ยนกฏกติกาข้อบังคับที่มีกฏหมายยุบยับเป็นตัวห้าม เราก็อาจจะพอดึงเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติเข้ามาได้ดีเหมือนเดิม

ถ้าเราสามารถลดปัญหาคอร์รัปชั่นที่เรื้อรังมานานได้หมดสักที หรือเอาให้ลดลงสักหน่อยก็ได้ ก็คงทำให้เรากลับมามีสเน่ห์ขึ้นในสายตาเวทีโลก

ถ้าเราสามารถดึงคนเก่งๆ จากทั่วโลกให้อยากมาอยู่เมืองไทยได้ ไม่ใช่ผลักไล่ใสส่งเด็กรุ่นใหม่หัวดีให้ย้ายประเทศไปสร้างความเจริญให้ที่อื่นแบบก่อนหน้า เราก็จะมีทรัพยากรมนุษย์ทองคำมากมายที่จะพัฒนาประเทศนี้

ถ้าประเทศลงลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานได้ดีและรวดเร็ว บวกกับไร้การคอร์รัปชั่นได้มากกว่านี้ ประเทศไทยประเทศนี้คงกลับมามีที่ยืนบนเวทีโลกได้ไม่ยาก

แต่ดูเหมือนว่าประเทศไทยจะยังไม่มีทิศทางว่าจะปรับตัวได้ทัน แถมเรายังเป็นประเทศที่ยังไม่พัฒนาสักที ติดหล่มคำว่ากำลังพัฒนามาไม่น้อยกว่า 50 ปีแล้ว บวกกับประเทศเราก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยเรียบร้อยแล้ว จำนวนประชากรเราจะเริ่มลดลงนับจากนี้ไป คิดไม่ออกเลยว่าประเทศนี้จะมีอนาคตอย่างไร คนส่วนใหญ่ในประเทศที่ยังยากจนจะใช้ชีวิตอย่างไรในวันที่ประเทศไทยกลายเป็นแค่ตัวประกอบของอาเซียนครับ

STAN Singapore Tourism Analytics Network

STAN หรือ Singapore Tourism Analytics Network คือแพลตฟอร์มที่เก็บข้อมูลที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวของประเทศสิงค์โปร ที่พัฒนาโดยภาครัฐที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงกับฐานข้อมูลจากภาคเอกชนกว่าสองหมื่นราย

Tourism Data ที่มาจากเอกชนเองก็มาจากการทำสัญญาแบ่งปันข้อมูล Data Sharing Agreement กับ 15 บริษัทเทคใหญ่ๆ ไม่ว่าจะ GRAB, Tencent หรือ Expedia ทำให้รัฐสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ดีเพื่อจะได้เอาไปใช้วิเคราะห์ต่อยอดเป็นกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจภาคการท่องเที่ยวได้อย่างแม่นยำ

และนั่นก็ทำให้ประเทศสิงค์โปรค้นพบ Insight จาก Data ว่า นักท่องเที่ยวจีนและอินโดนีเซียเป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายมากที่สุดเวลาไปช้อปปิ้ง ทำให้ผู้ประกอบการร้านค้ารู้ว่าควรออกแคมเปญพิเศษในช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวสองชาตินี้เข้ามาเยอะกว่าปกติ

1 ใน 10 ของนักท่องเที่ยวที่มาประเทศสิงค์โปรมักจะมีการเปลี่ยนโรงแรมระหว่างทริป โดยมักจะอัปเกรดไปอยู่โรงแรมที่แพงขึ้น ทำให้โรงแรมสามารถคิดกลยุทธ์ดึงดูดลูกค้าให้อยู่พักกับตัวเองนานๆ แทน ไม่ต้องเดาสุ่มในการทำการตลาดหรือออกโปรโมชั่นมั่วๆ อีกต่อไป

SkillsFuture โครงการแจกความรู้ให้ประชาชนของรัฐบาลสิงค์โปร

ดูเหมือนประเทศนี้รัฐบาลเขาจะมีวิสัยทัศน์ค่อนข้างล้ำ ในขณะที่ประเทศอื่นโดยเฉพาะประเทศไทยเราเน้นการแจกเงินเป็นหลัก ประเทศเขาได้ทำการแจกความรู้ให้กับประชาชนแทน

SkillsFuture คือโครงการแจกเหมือนกัน แต่สิ่งที่แจกไม่เหมือนกัน นั่นก็คือให้เครดิตหรือคูปองดิจิทัลที่เปิดโอกาสให้ประชาชนชาวสิงค์โปรที่อยากเรียนรู้ทักษะใหม่สำหรับอนาคตสามารถเลือกเรียนอะไรก็ได้ตามใจ

โดยทุกคนจะได้คูปองเหมือนๆ กันตอนต้นปี และต้องรีบใช้เรียนให้ทันปลายปีที่คูปองจะหมดอายุ

ดูเหมือนว่าการติดกระดุมเม็ดที่ 0 ของเขาจะฉลาดกว่าเราที่ยังวุ่นกับการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่จะเป็นการใช้งบประมาณ 500,000 ล้านที่ไม่ค่อยเกิดผลกระทบในระยะยาวหรือเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานสักเท่าไหร่

From Product Design to Brand Ecosystem Design

เดิมทีเรามักแข่งกันออกแบบสินค้าหรือบริการที่มีความแตกต่างจากคู่แข่ง หรือมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากๆ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่พอสำหรับโลกวันนี้ นับจากนี้ไปถ้าบริษัทไหนอยากอยู่ต่อและเติบโตได้ ต้องเริ่มหันมาใส่ใจกับการออกแบบ Brand Ecosystem

อย่าง Apple ที่ไม่ได้ออกแค่สินค้ามาขายเป็นชิ้นๆ แต่ยังออกแบบให้ทุกชิ้นสามารถทำงานส่งเสริมกันได้ เช่น ถ้าคุณมี Macbook กับ iPad สามารถนำไป iPad มาต่อเป็นจอแยกได้ง่ายๆ ไม่วุ่นวายเหมือนรายอื่น

แล้วก็มี iCloud ให้คุณเก็บข้อมูลมากมายได้บนนั้นในราคาเดือนละไม่กี่บาท ส่วนคนที่ใช้ iPhone ก็สามารถ copy ลิงก์หรือข้อความลงคอมพิวเตอร์ Macbook หรือ iMac ได้สบายๆ

หลักคิดการออกแบบ Brand Ecosystem นั้นมีมานานมาก แต่มีน้อยบริษัทที่จะสามารถทำได้จริงอย่าง Apple ในวันนี้ ลองคิดดูนะครับว่าคุณจะต่อยอดทำเงินจากลูกค้าคนเดิมอย่างไรได้บ้าง

เพราะนี่คือกลยุทธ์การตลาดแบบ Customer Lifetime Value หรือการทำเงินจากลูกค้าคนนึงให้นานที่สุดตลอดช่วงอายุที่เขาเป็นลูกค้าเรา

น้ำไม่เต็มแก้ว

นี่คือประเด็นสุดท้ายในเล่มนี้ที่จะขอพูดถึง มันคือการกลับมาย้ำจุดง่ายๆ อย่างเรื่อง “น้ำไม่เต็มแก้ว” แต่ในนิยามใหม่

น้ำไม่เต็มแก้วไม่ใช่การพูดหวาน พูดเพราะ อ่อมน้อมถ่อมตน แต่มันคือการยอมรับว่าเราไม่รู้ และเราพร้อมจะเรียนรู้จากทุกๆ คนไม่ว่าคนนั้นจะเป็นผู้ใหญ่หรือผู้น้อย

เพราะเราอยู่ในยุคที่ความรู้หมดอายุไวขึ้นทุกวัน หลายสิ่งที่เคยรู้มาเมื่อปีก่อนกลับไม่สามารถใช้งานได้แล้วในปีนี้

เราต้องยอมรับว่าเราไม่รู้ เพื่อที่เราจะได้รู้ เราจะต้องขยายขนาดแก้วของเราให้ไว เพื่อที่จะได้เติมความรู้ใหม่ๆ เข้ามา

สรุปหนังสือ Twists and Turns คิดเปลี่ยนในโลกหักมุม

นี่คือหนังสือที่ให้แง่คิดและเผยให้เห็นแง่มุมใหม่ๆ ของโลกยุคหลังโควิด19 ที่ก้าวเข้าสู่ยุค AI เต็มตัวแล้วในวันนี้

จากสิ่งที่เราเห็นจาก AI ยุคใหม่หรือที่เรียกว่า Generative AI จาก LLM ทำได้ มันทำให้เราจินตนาการถึงโลกใหม่ที่เคยแต่คิดฝันว่าอีกนานกว่าจะมา กลายเป็นว่าแค่พรุ่งนี้หรืออีกไม่กี่วันข้างหน้าสิ่งนั้นก็พร้อมให้เราใช้งานแล้ว

เราอยู่ในโลกยุคที่เมื่อวานจะล้าสมัยเร็วขึ้นกว่าเดิม สิ่งที่เคยเกิดขึ้นจะหายไปไวมาก เพราะเรากำลังอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยจุดเลี้ยว จุดเปลี่ยน และจุดหักเห ไปจนถึงจุดจบ และก็ยังมีจุดเริ่มต้นของอีกหลายสิ่งมากมายที่คาดการณ์ไม่ได้

แต่สิ่งหนึ่งที่คาดการณ์ได้ก็คือมนุษย์จะยังคงเป็นมนุษย์เหมือนเดิม ดูเหมือนว่ามนุษย์ที่พร้อมจะเข้าอกเข้าใจมนุษย์ที่สุด เข้าใจข้อจำกัดของมนุษย์ด้วยกันมากที่สุด รู้จักในข้อดีของมนุษย์มากที่สุด จะเป็นคนที่ได้ไปต่อและขึ้นมาเป็นคนระดับท็อปในโลกยุค AI ครับ

อ่านแล้วเล่า สรุปหนังสือเล่มที่ 20 ของปี

สรุปหนังสือ Twists and Turns คิดเปลี่ยนในโลกหักมุม
เข้าใจการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สร้าง “โอกาส” ใหม่ในโลกที่ไม่เหมือนเดิม
สันติธาร เสถียรไทย เขียน
สำนักพิมพ์ มติชน

อ่านสรุปหนังสือแนวนี้ต่อ: https://summaread.net/category/economy/

สั่งซื้อออนไลน์
https://s.shopee.co.th/4ptzEMEjp8

จากนักอ่านที่เริ่มอยากหัดเขียน จากการที่ต้องอ่านเพราะความจำเป็น กลายเป็นอ่านเพราะหลงไหล, สวัสดีครับผมชื่อหนุ่ย ผมทำงานด้าน Digital and Data Marketing ผมยังมีเพจการตลาดอีกเพจที่อยากฝากให้ลองอ่านดูนะครับ https://www.facebook.com/everydaymarketing.co/