สรุปหนังสือ วิชาธุรกิจที่ชีวิตจริงเป็นคนสอน 4 The Little Book of Business 4 ธรรศภาคย์ เลิศเศวตพงศ์ เขียน เจ้าของเพจ Trick of the Trade

วิชาธุรกิจที่ชีวิตจริงเป็นคนสอน 4

สรุปหนังสือ วิชาธุรกิจที่ชีวิตจริงเป็นคนสอน 4 เขียนโดยพี่ปิ๊ก ธรรศภาคย์ เลิศเศวตพงศ์ เจ้าของเพจ Trick of the Trade เป็นซีรีส์หนังสือชุดธุรกิจที่ผมติดตามมาตั้งแต่เล่มที่ 1 จากประสบการณ์จริงของพี่ปิ๊ก และความเด็ดขาดของการไม่อ้อมค้อม ทำให้เนื้อหาในเล่มนั้นคมและมีแต่เนื้อล้วนไร้น้ำ ไม่มีเกริ่นโน่นนี่นั่นแบบหนังสือธุรกิจทั่วไปให้เสียเวลา ส่วนตัวยกให้เป็น Bible of Business ที่คนทำธุรกิจทุกคนจำเป็นต้องอ่านเลย

และไม่ใช่แค่คนทำธุรกิจเท่านั้น แต่คนทำการตลาดก็ควรอ่าน จะได้รู้ว่าจะทำการตลาดอย่างไรให้ตอบโจทย์ธุรกิจมากขึ้น ไม่ใช่คิดฟุ้งไปเรื่อย ทำเอาสนุกอย่างเดียว ดังนั้นใครที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจไม่ว่าจะในตำแหน่งไหน ควรต้องมีหนังสือชุดนี้ติดโต๊ะทำงานไว้เลยครับ

หนังสือเล่มนี้คงไม่รู้จะสรุปอะไร เพราะเนื้อหาก็คมกระชับจนไม่เหลืออะไรให้สรุปแล้ว ขอเป็นหยิบบางช่วงบางตอนที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟัง พร้อมกับแชร์มุมมองจากประสบการณ์ส่วนตัวเสริมแล้วกันนะครับ

Why, How, What

Why คือสิ่งที่ผู้บริหารระดับสูงและเจ้าของธุรกิจต้องตอบให้ได้ ว่าเราทำสิ่งนี้ไปทำไม อะไรคือเป้าหมายสูงสุดของเรา คำถามนี้เปรียบเสมือนเข็มทิศว่าธุรกิจเราจะเดินหน้าไปยังทิศทางไหน คนทำงานต่อจากเราจะได้วางเป้าหมายต่อว่าต้องทำอะไร ไปจนถึงต้องทำอย่างไร เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้นครับ

How คือสิ่งที่ผู้บริหารระดับกลางและผู้จัดการระดับสูงต้องตอบให้ได้ เมื่อผู้บริหารระดับสูงหรือเจ้าของมี How มี Purpose ที่ชัดเจนมาแล้ว ก็ถึงคราวส่งลูกต่อให้คนที่ต้องคิดค้นหา How ว่าจะทำสิ่งนั้นให้สำเร็จอย่างไรได้บ้าง

มีเทคโนโลยีใหม่อะไรช่วย มี Process การทำงานแบบใหม่อย่างไรบ้าง มันคือหาทางพิชิตเป้าหมายให้ได้ จากนั้นก็จะเป็นการส่งต่อไปที่ What ว่าจะต้องลงมือทำอะไรบ้าง

What คือสิ่งที่พนักงานคนหน้างานจะต้องทำให้ได้ เมื่อเป้าหมายชัด วิธีการชัด ก็เป็นขั้นตอนการลงมือทำให้สำเร็จ มันคือการทำสะสมทุกวันเพื่อให้ภาพรวมกำลังเดินหน้าเข้าใกล้เป้าหมายขึ้นเรื่อยๆ คนหน้างานทำให้เสร็จ ความสำเร็จก็จะค่อยๆ ตามมา

ดังนั้นลองสำรวจดูว่าองค์กรเรามีคนแบบไหนเยอะ และกำลังขาดคนแบบไหนอยู่ ถ้ามีแต่นักคิดไม่มีนักทำ ก็จะเป็นบริษัทที่เอาแต่เพ้อฝัน ถ้ามีแต่นักทำไม่มีนัดคิด ก็อาจฉิบหายได้ เป้าหมาย วางแผน ลงมือทำ สามสิ่งง่ายๆ ที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ

อย่าเอาคนขับรถเมล์มาขับรถแท็กซี่

เป็นเรื่องราวตัวอย่างของธุรกิจแท็กซี่แห่งหนึ่ง ตั้งใจจะปฏิวัติวงการแท็กซึ่ขึ้นมาใหม่ ด้วยการใช้รถยนต์รุ่นใหม่ไฮบริดนั่งสบาย แถมยังช่วยประหยัดค่าน้ำมันด้วย แต่แน่นอนว่าค่ารถก็ราคาแพงกว่ารถยนต์ติดแก๊สทั่วไป แต่เมื่อประเมินในระยะยาวแล้วคุ้มค่าการลงทุนกว่ามาก

แต่ปัญหาคือการเลือกคนขับ ดันเลือกคนที่ไม่เหมาะกับงานขับรถแท็กซี่ ดันไปเลือกคนขับรถเมล์มา ไม่ใช่ว่าคนขับรถเมล์นั้นขับไม่ดี แต่คนขับรถเมล์นั้นไม่ตอบโจทย์การขับรถหาเงินแบบแท็กซี่

เพราะนิสัยคนขับรถเมล์คือขับตามรอบ ครบรอบก็หลับ แต่คนขับแท็กซี่คือขับแบบหิวกระหายรีบหาเงินทุกนาที ผลคือเมื่อเอาคนขับรถเมล์มาขับแท็กซี่ รถเลยจอดมากกว่าวิ่ง เพราะขับครบเดือนก็ได้เงินเดือนเหมือนปกติ ดีตรงที่ไม่ต้องเหนื่อยขับตามเส้นทางที่กำหนดให้ทำรอบกี่รอบตามเดิม

ดังนั้นการเลือกคนที่เหมาะกับงานนั้นสำคัญ ไม่แพ้กับการลงทุนในนวัตกรรมใหม่หรือ Business Model ด้วยซ้ำครับ

เปลี่ยนของไม่ดีให้กลายเป็นของดี

เป็นวิธีการกำจัดสินค้าที่ขายไม่ดีออกจากร้าน เดิมถ้าสินค้าไหนไม่สามารถขายได้นานๆ อาจต้องถูกกำจัดสต็อกทิ้ง แต่หนังสือเล่มนี้ให้ไอเดียใหม่ที่น่าสนใจ เอาของขายไม่ดีไปทำเป็นของแถม ทำให้ลูกค้ารู้สึกกำไรเมื่อจ่ายเท่าเดิม ส่วนสต๊อกสินค้าขายไม่ดีก็ถูกระบายออกไปแบบมีมูลค่าและคุณค่ามากกว่าเดิม

พูดจาแย่เพราะเริ่มจนมุม

แนวคิดนี้ผมก็ชอบ พี่ปิ๊กบอกว่าถ้าเมื่อไหร่ระหว่างประชุมฝ่ายตรงข้ามเริ่มพูดจาแย่ๆ เริ่มพูดจาไม่ดี แสดงว่าเขาเริ่มจนมุมจนไม่รู้จะหาทางพลิกเกมมาสร้างความได้เปรียบอย่างไรแล้ว

คำแนะนำคืออย่าตอบกลับด้วยอารมณ์ แต่ใช้คำถามเป็นอาวุธให้อีกฝ่ายยอมจำนน ให้นิ่งและยึดมั่นเป้าหมายในการเจรจาแต่ต้นเข้าไว้

จำไว้ว่ายิ่งเจอคำพูดแย่ๆ เมื่อไหร่แสดงว่าอีกฝ่ายกำลังจนมุมมากเท่านั้น และนั่นก็คือสัญญาณบวกของฝ่ายเรา อย่าเผลอไปบวกตามเกมเค้าก็พอ

เมื่อไหร่ที่ขายไม่ดีให้…

เมื่อไหร่ที่ขายไม่ดีให้กำจัดของไม่ดีทิ้ง เช่น สินค้าบางรุ่น ลูกค้าบางคน ลูกน้องบางประเภท นี่คือของไม่ดีสามอย่าง ตัดทิ้งให้ได้ แล้วชีวิตจะดีขึ้นทันตา

จริงมากครับ เก็บภาระไว้กับตัวจะยิ่งมีแต่ปวดหัว ตัดภาระปัญหานั้นทิ้งได้ไวเท่าไหร่เราจะยิ่งมีเวลามาเหลือคิดเรื่องดีๆ มากขึ้น

และสำคัญคือการห้ามประหยัดเงินกับการปรับปรุงคุณภาพ หรือห้ามงกกับการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า เพราะถ้าเราลดสิ่งนี้เมื่อไหร่ยอดขายก็จะยิ่งหายไปมากขึ้นเรื่อยๆ

สรุปหนังสือวิชาธุรกิจที่ชีวิตจริงเป็นคนสอน 4

ยังคงเป็นหนังสือที่อ่านสนุกแถมยังได้ความรู้สาระเต็มๆ ทุกครั้ง คัดเรื่องจริงมาจากประสบการณ์เน้นๆ ดังนั้นใครต้องทำธุรกิจ ใครเป็นผู้บริหาร ใครเป็นนักการตลาด หรือใครเป็นทีมขาย แนะนำให้มีหนังสือเล่มนี้ติดตัวติดโต๊ะทำงานไว้ครับ

อ่านแล้วเล่า เล่มที่ 23 ของปี

สรุปหนังสือ วิชาธุรกิจที่ชีวิตจริงเป็นคนสอน 4
The Little Book of Business 4
ธรรศภาคย์ เลิศเศวตพงศ์ เขียน
เจ้าของเพจ Trick of the Trade

อ่านสรุปหนังสือชุดนี้ต่อ: สรุปหนังสือชุดวิชาธุรกิจที่ชีวิตจริงเป็นคนสอน

สั่งซื้อออนไลน์: https://s.shopee.co.th/9A3B8GM2Uc

จากนักอ่านที่เริ่มอยากหัดเขียน จากการที่ต้องอ่านเพราะความจำเป็น กลายเป็นอ่านเพราะหลงไหล, สวัสดีครับผมชื่อหนุ่ย ผมทำงานด้าน Digital and Data Marketing ผมยังมีเพจการตลาดอีกเพจที่อยากฝากให้ลองอ่านดูนะครับ https://www.facebook.com/everydaymarketing.co/