Political Philosophy ปรัญชาการเมือง
ถ้าถามว่า ปรัชญการเมือง ต่างกับ การเมือง ปกติอย่างไร ผมคงสรุปหลังจากอ่านจบได้ว่า การเมืองโดยทั่วไปคือผลลัพธ์หรือวิธีการ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเมืองนั้น . เช่น นักการเมืองอาจมีเป้าหมายที่จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ด้วยการทำให้เกิดการจ้างงานเต็มอัตรา เอาง่ายๆก็คือทุกผู้ทุกคนมีงานทำนั่นเอง แต่ไม่ใช่แค่ทุกคนมีงานทำเท่านั้น เพราะนั่นอาจหมายถึงว่ามีอาชีพที่คนไม่ได้อยากทำ หรือไม่ตรงกับความรู้ความสามารถที่มี ทำให้ไม่สามารถทำงานออกมาได้เต็มที่ เช่น ถ้านักการเมืองสร้างงานในตำแหน่งเสมียน หรือพนักงานกวาดถนน (ที่เอ่ยถึงสองอาชีพนี้ไม่ได้ดูถูก แค่ยกเป็นตัวอย่างง่ายๆให้เห็นภาพเร็วๆ) ก็ไม่อาจบรรลุวัตถุประสงค์ที่แท้จริงได้ . นี่คือ การเมือง . ส่วนปรัชาการเมืองหมายถึงการคิด คิดไปยังความจริงแท้ของเป้าหมายทางการเมืองนั้น เช่น อาจคิดต่อไปว่าถ้าการทำให้ทุกคนมีงานทำอย่างที่ตัวเองอยากทำ หรือมีงานทำที่ทำให้ตัวเองมีความสุขตามความรู้ความสามารถและใจรัก นักปรัชญาการเมืองอาจเสนอว่า ทำไมถึงต้องสร้างตำแหน่งงานขึ้นมาให้ตรงกับความต้องการที่แตกต่างกันมากมาย ทำไมรัฐถึงไม่ใช้วิธีแจกเงินให้กับทุกคนดำรงชีพอยู่ได้โดยไม่ต้องทำงาน และปล่อยให้ผู้คนได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักจริงๆ . เป็นการต่างกันอย่างสุดโต่งจริงๆครับ . หนังสือเล่มนี้เปิดเรื่องและดำเนินเรื่องผ่านรูปภาพรูปหนึ่งที่เมือง Siena ประเทศ Italy ที่วาดขึ้นเมื่อปี 1337-1339 โดยศิลปินที่ชื่อ Ambrogio Lorenzetti อยู่ในสภาเมืองของผู้ปกครองในยุคนั้น เป็นภาพที่เล่าถึงการปกครองที่ดีและเลวในรูปเดียวกันแต่อยู่กันคนละฝั่งของภาพ ภาพในส่วนของการปกครองที่ดีนั้น จะเห็นว่าประชาชนมีความสุขอยู่รวมกับเหล่าผู้ปกครองอย่างมีความสุข ส่วนในส่วนที่เป็นการปกครองที่เลวนั้นจะเห็นความแตกต่างชัดเจนว่า ประชาชนและผู้ปกครองต่างอยู่กันอย่างไม่เป็นสุข ทุกคนทุกฝ่ายต่างหวาดระแวงแอบทำร้ายซึ่งกันและกัน […]