Propaganda โฆษณาชวนเชื่อ
สรุปอย่างย่อ นี่คือหนังสือที่สอนเรื่องการ PR ชั้นดี ที่เผยเบื้องหลังของสิ่งต่างๆรอบตัวที่เรามองข้ามมาตลอด ให้เห็นความเชื่อมโยงที่จริงอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะถ้าลองคิดตามดูจะพบว่ามันจริงซะจริงจนไม่รู้จะว่ายังไง เช่น การจะทำให้สินค้าที่ผ่านการออกแบบมีค่าในสายตาผู้บริโภคทั่วไปมากขึ้น ก็จะไม่ใช้การโฆษณาตรงๆ แต่จะใช้การสร้างกระแสให้เห็นคุณค่าของการศิลปะ อาจจะผ่านหอศิลป์ต่างๆมากมาย เพื่อให้คนยอมรับในคุณค่าของการออกแบบมากขึ้น แม้หนังสือเล่มนี้จะอ่านแล้วไม่สมูทเท่าไหร่นักในความคิดผม แต่ผมว่าเนื้อหาในเล่มมีประเด็นเด็ดๆที่ไม่เคยคิดถึงมาก่อนไม่น้อยเลยครับ ดังนั้นถ้าใครทำงานการตลาด ทำงานด้านการขาย หรือทำงานประชาสัมพันธ์ หรืออาจจะแค่อยากรู้เท่าทันว่าสารที่เราเห็นผ่านสื่อรอบตัวนั้น แท้จริงแล้วเค้ากำลังต้องการอะไรจากเรากันแน่ เพราะการโฆษณาชวนเชื่อคือการไม่บอกตรงๆว่าอยากให้เราทำอะไร แต่เป็นการพูดอ้อมๆหรือสะกิดเบาๆให้เรารู้เองว่าเราควรทำหรือคิดอย่างไร สรุปอย่างยาว ผมขอหยิบบางส่วนในเล่มมาเล่าให้ฟังเพื่อเรียกน้ำย่อยให้คุณไปหามาอ่านเองแบบเต็มๆที่งานหนังสือที่กำลังจะมาถึงสิ้นเดือนนี้ หรือลองไปหาดูตามร้านหนังสือใกล้บ้านนะครับ ป้อนเรื่องให้คนต้องคิด ทำให้คนไม่มีเวลาไปคิดเรื่องอื่นที่ไม่อยากให้คิด อย่างการที่สื่อต่างๆพยายามป้อนข่าวโน่นนี่นั่นใส่หัวเราตลอดเวลา บางทีเค้าก็ไม่ได้อยากให้เราใส่ใจเรื่องนั้นหรอก แต่เค้าแค่ไม่อยากให้เรามีเวลาว่างไปใส่ใจเรื่องอื่นที่เค้าไม่อยากให้เราใส่ใจ เช่น อาจจะเป็นข่าวไม่ดีที่คนอาจจะพูดถึงถ้าไม่มีกระแสเรื่องอื่นเข้ามากลบ เรื่องนี้มักเจอบ่อยที่ใช้การเบี่ยงประเด็น ชนชั้นคือหัวใจสำคัญของการเมือง ตราบใดที่ยังมีการเมืองนั้นหมายความว่าจะต้องมีชนชั้นผู้ปกครองกับผู้ถูกปกครอง คนส่วนใหญ่ก็ยังถูกชี้นำความคิดโดยคนส่วนน้อยอยู่ดี การศึกษาเองก็เป็นเครื่องมือของการปกครอง ด้วยการสร้างกรอบความคิด ปูพื้นฐานความรู้ ให้รู้ในสิ่งที่อยากให้รู้ และให้คิดในสิ่งที่อยากให้คิด ทำให้แน่ใจว่าเรียนจบออกมาแล้วจะได้มาตรฐานความรู้และความคิดอย่างที่รัฐบาลต้องการ โฆษณาชวนเชื่อเรื่องผ้าไหมก็น่าสนใจ เรื่องมีอยู่ว่าวงการผ้าไหมในช่วงหนึ่งกำลังจะล้มหายตายจาก เพราะตลาดอเมริกาที่เคยเป็นตลาดใหญ่นั้นไม่สนใจอีกต่อไป เลยต้องพยายามหาทางทำให้ตัวเองกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งเพื่ออยู่รอด เริ่มจากการรวมกลุ่มของผู้ผลิตผ้าไหมใช้วงการแฟชั่นที่ฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้กันว่าฝรั่งเศสนั้นชี้นำแฟชั่นทั่วโลก จากนั้นก็ชวนนักออกแบบแบรนด์ดังทั้งหลายทำให้ผ้าไหมกลับมาอีกครั้ง แต่ผ้าไหมก็เปลี่ยนรูปแบบจากเสื้อผ้าออกไปยังสินค้าแฟชั่นอื่นๆอย่าง หมวก หรือ เสื้อคลุม จนทำให้ผ้าไหมกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง แถมยังขายได้ราคาแพงขึ้นด้วยเพราะไม่ใช่แค่เสื้อผ้าสวมใส่ประจำวันทั่วไปอีกต่อไป หรือที่น่าสนใจมากคือการทำให้กระโปรงสั้นขายดีแม้จะผิดกฏหมายที่ห้ามสตรีนุ่งกระโปรงสั้นออกนอกบ้านเวลานั้นด้วยเสื้อคลุม […]