25 วิธีคิดให้ชีวิตชิบหาย เงินติดล้อ

สรุปหนังสือ 25 วิธีคิดให้ชีวิตชิบหาย หนังสือเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญการตลาดจากเงินติดล้อที่มาแปลกกว่าแคมเปญการตลาดทั่วไป เพราะนอกจากจะทำออกมาเป็นหนังสือที่ถ้าไม่อ่านก็ไม่รู้ว่าเงินติดล้อเป็นคนทำ แถมที่สำคัญกว่าจะมารู้ว่าเงินติดล้อเป็นคนทำหนังสือเล่มนี้ออกมาก็ปาไปตอนจบแล้ว

ถ้าเปรียบหนังสือเล่มนี้เป็นหนังโฆษณาก็ประหนึ่งหนังไวรัลที่เอาแต่ให้คนดูโดยที่ไม่คิดจะขายของอะไรเลย แล้วค่อยมีโลโก้ทิ้งท้ายบางๆ ที่บอกว่าเราตั้งใจทำโฆษณาชิ้นนี้มาด้วยความหวังดี เหมือนที่หนังสือเล่มนี้ที่เงินติดล้อตั้งใจทำมาเพื่อเรียกสติคนยุคใหม่ที่ใช้เงินเร็วเหมือน Wifi ครับ

เช่น บทที่ 6 ที่ว่าด้วยเรื่อง SALE ตัวหนังสือสี่ตัวที่เราเฝ้ารอ

เนื้อหาออกไปทางแนวเสียดสีกระแทกกระทั้น หรือถ้าพูดให้จริงขึ้นอีกนิดก็คือแดกดันกันเอาให้ถึงตาย

เนื้อหาในบทที่ 6 ที่ว่าด้วยเรื่อง SALE นี้บอกว่า

“โลกนี้น่าอยู่เพราะมีของเซล จะลดกระหน่ำ ลดเที่ยงคืน ลดกลางปี ลดปลายปี หรือลดรายวัน มันช่างดีงาม มันคือการใช้เงินอย่างคุ้มค่า ประหยัดและดีต่อใจ ลดเท่าไหร่คือประหยัดไปเท่านั้น ยิ่งถ้าลดเกิน 50% เห็นไม่ได้ ใจหวิว 80% เมื่อไหร่ซื้อไว้ก่อนเลย คงได้ใช้สักวัน

ดี ดี… จะได้เอาเงินที่เราประหยัดจากการลดราคาไปทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์ เช่น ไปซื้อของที่เล็งไว้แต่ยังไม่ลดราคา

วิธีการคำนวนก็ง่ายๆ ราคาเต็มหนึ่งหมื่นลด 70% จ่ายไปสามพัน เท่ากับประหยัดไปตั้งเจ็ดพัน ตบมือดิ… จะรออะไร”

นี่แหละครับเนื้อหาที่ผมว่าช่างประชดประชันและแดกดันอย่างได้ใจผมเหลือเกิน

ถ้าถามว่าทำไมต้องพูดกันแรงแบบนี้ คนไทยเหมือนกันพูดกันดีๆ ก็ได้! ก็ต้องบอกว่าหนังสือเล่มนี้เขาทำขึ้นมาเพื่อตั้งใจเรียกสติ แต่เป็นการเรียกด้วยการตบ ไม่ใช่ตบด้วยหนังสือ แต่ตบด้วยตัวหนังสือครับ

ดังนั้นทั้ง 25 วิธีคิดที่ทำให้ชีวิตชิบหายนี้ รับรองว่าแสบคันถึงทรวง จะซื้อเอาไว้เพื่อไปแจกให้เพื่อนที่ใช้เงินเป็นเบี้ย ยิ่งประเภทที่เห็นป้าย SALE สีแดงทีหน้ามืดคล้ายจะเป็นลมจนต้องรีบวิ่งเข้าไปพักใช้เงินในร้านอะไรประเภทนั้น

หรืออีกบทนึงที่ผมชอบมากไม่แพ้กัน

บทที่ 12 เงินในอนาคตก็เงินเราป่ะ!

“เงินในอนาคตมันก้คือเงินเดือนหน้า เดือนถัดไป…แล้วก็ถัดไป โบนัส แต๊ะเอียและหวย (ออกชัวร์งวดนี้ เราจะรวยเละ) แล้วอื่นๆ เท่าที่เราจะคิดออก

โดยหลักการ ถ้ามันเข้ากระเป๋าเรา ไม่ว่าเมื่อไหร่มันก็เงินเรารึป่าววะ? แล้วทำไมเราจะใช้เงินเราไม่ได้ เราจึงใช้มันซะตั้งแต่ตอนนี้ เพราะมีของที่เราว้อนท์มากมาย เราจึงต้องการคลายความกดดัน

แล้วจะใช้ยังไง? ก็บัตรเครดิตไง รูดไปเต็มทุกใบเมื่อไหร่ก็ Personal Loan และเงินด่วนอีกมากมาย เค้าอุตส่าห์โทรมาชวนเสียงหวานชื่นใจ แถมให้เราค่อยๆ ผ่านจ่ายด้วย แต่เราก็ได้ตั้งปณิทานไว้ว่าถ้าถูกหวยซักล้านเมื่อไหร่ เราก็โปะไปดังโครม! เป็นอันจบหนี้”

เป็นยังไงครับกับคนที่ชอบเอาเงินในอนาคตมาใช้ จนลืมไปว่าอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ไม่แน่ว่าโบนัสที่คิดว่าจะได้กันปีนี้อาจจะแห้วทันทีจนเป๋เรื่องเงินได้ง่ายๆ นะครับ

ไหนๆก็ไหนๆขอแชร์อีกบท บทที่ 16 นี้เป็นบทที่ผมชอบมาก

บทที่ 16 อดทนเป็นอาการของคนไม่มีทางเลือก

เราไม่ต้องอดทน เพราะเราเป็นคนมีทางเลือก ถ้ามาสายก็บ่น กลับไวก็บ่น ใช้งานเราจนมืด เสียเวลาส่องเฟซ ทำเสร็จยังจะมาบ่นอีกว่าไม่ดีงู้นงี้ เราทำได้ดีเลิศแต่เจ้านายดันสมองกลวงเอง จึงไม่เข้าใจว่าจะทนไปทำไม ท่องไว้! ถ้ามันไม่ Go our way มันก็คงไม่ใช่ The way แน่นอน! เราไม่ใช่คนยุคไดโนเสาร์ ทำงานที่ไหนก็อยู่ยาววววจนรากงอก

เรามีทางเลือกมากมาย งั้นไปหางานใหม่ดีกว่า งานใหม่ไม่ดีอย่างที่คิด เสียเวลาเปล่าๆ ไม่เหมาะกับตัวตนเรา เราเลิก! (ตัวตนเราเป็นเรื่องสำคัญมาก ok?)

ไปเป็นนายตัวเองก็ดี ขายของออนไลน์หรือไลฟ์เฟซขาย ใครๆ ก็ทำ ดีไม่ดีเราจะดังและรวยกว่าบังอาซัน ไม่เชื่อรอดู

จี๊ดเลยครับเรื่องนี้ ในฐานะคนที่เคยไม่อดทนจนต้องรู้จักอดทนขึ้นมา เนื้อหาในบทนี้จึงเหมือนตบเข้ากะโหลกผมในวัยเด็กขึ้นมาอีกครั้งให้รู้ค่าของความอดทน

เอาเป็นว่าผมเกริ่นแค่นี้ก็แล้วกัน เหลืออีก 22 บทของหนังสือ 25 วิธีคิดให้ชีวิตชิบหาย ถ้าอยากรู้ว่าเป็นยังไงก็ลองแวะไปร้านหนังสือใกล้ที่ทำงานแล้วหยิบขึ้นมาอ่านดูซักบทสองบทนะครับ

ขอบคุณเงินติดล้อด้วยครับที่ส่งหนังสือดีๆ มาให้อ่านถึงบ้าน อ้อ ลืมบอกว่าผมมีหนังสือแจกให้ 1 เล่มนะครับ เพียงแค่แชร์เข้ามาว่าคุณเคยมีบทเรียนอย่างไรในการใช้เงินที่เสี่ยงจะทำให้ชีวิตชิบหายเหมือนอย่างเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ บทเรียนของใครดูแล้วน่าชิบหายที่สุดเอาหนังสือเล่มนี้ไปเลยครับ

อ่านแล้วเล่า เล่มที่ 62 ของปี 2019

สรุปหนังสือ 25 วิธีคิดให้ชีวิตชิบหาย
อ่านเพื่อให้รู้ว่าคุณทำมันไปแล้วรึยัง
เงินติดล้อ เขียน
สำนักพิมพ์ I AM THE BEST

20191030

สนใจสั่งซื้อได้ที่ > http://bit.ly/2JA1Ll6

By Nattapon Muangtum

จากนักอ่านที่เริ่มอยากหัดเขียน จากการที่ต้องอ่านเพราะความจำเป็น กลายเป็นอ่านเพราะหลงไหล, สวัสดีครับผมชื่อหนุ่ย ผมทำงานด้าน Digital and Data Marketing ผมยังมีเพจการตลาดอีกเพจที่อยากฝากให้ลองอ่านดูนะครับ https://www.facebook.com/everydaymarketing.co/