สรุปหนังสือ เรื่องเร้นลับโลก สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่ แต่สิ่งที่ไม่เห็น…อาจใช่ หนังสือชุด World of Knowledge Series สำนักพิมพ์โนเบิ้ลบุ๊คส์
ส่วนตัวผมชอบอ่านหนังสือแนวนี้มาตั้งแต่เด็ก แนวเรื่องลักลับ เรื่องลี้ลับ และเรื่องเร้นลับ มันทำให้เราเปิดจินตนาการ เปิดโลกในมุมคนอีกกลุ่ม หรือคนโบราณว่าเขาคิดและเชื่ออย่างไรในวันวาน
ยิ่งเข้าใจบริบทของสังคมในเวลานั้นควบคู่ไปด้วย ยิ่งทำให้เห็นภาพว่า สิ่งใดก็ตามที่เราคิดว่าดี หรือถูกต้องที่สุดในวันนี้ อาจดูเป็นเรื่องโง่เขลาเบาปัญญามากเมื่อเวลาผ่านไป
อย่างหนังสือเรื่องเร้นลับโลกเล่มนี้ รวบรวมเรื่องราวที่เราทั้งคุ้นเคย หรือพอจะคุ้นหูมาให้เราจบในเล่มเดียว แบบสรุปแต่ละประเก็นให้เรียบร้อย
เนื้อหาในเล่มประกอบด้วย
หับพันธสัญญาที่ในคัมภีร์ไบเบิลที่หายสาบสูญ ตกลงมันมีจริงหรือไม่ก็ไม่รู้ หรือจากหลักฐานล่าสุดเจ้าหีบที่ว่าถูกพบเห็นอยู่ที่ไหน
ผ้าห่อพระศพและพระพักตร์พระเยซู แห่งเมืองตูริน ผ้าอันโด่งดังที่เคยถูกเชื่อกันในชาวคริสต์ แต่สุดท้ายวิทยาศาสตร์กลับพิสูจน์ได้ว่า ตัวผ้าผืนนี้ไม่ได้มีอายุเท่าสมัยพระเยซูคริสต์แต่อย่างไร
กลายเป็นเกิดกลุ่มที่ต่อต้านวิทยาศาสตร์ หรือไม่เชื่อในวิทยาศาสตร์นั้นไปเลย ว่าไปก็คล้ายๆ คนที่เชื่อในอะไรมากๆ บ้านเรา ที่เชื่อแบบไม่ลืมหูลืมตา
เชื่อแบบหน้ามืดตามัวว่า สิ่งที่เราเชื่อต้องดี สิ่งที่เราเชื่อต้องจริง หรือในมุมนึงอาจเป็นเพราะกลัวตัวเองแตกสลายก็ไม่รู้
ถัดมาเป็นเรื่องกลุ่มอัศวินไนต์ เทมปลาร์ ที่เกี่ยวข้องกับขุมสมบัติมหาศาล และวิหารโซโลมอน
กลุ่มที่ถูกนำมาหยิบไปต่อยอดสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อว่า National Treasure อันโด่งดัง ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังคงไม่มีใครรู้ว่าตกลงกลุ่มอัศวินดังกล่างแอบเอามหาสมบัติไปซ่อนไว้มุมไหนในโลกใบนี้
แต่ความน่าสนใจคือได้รู้ว่าเดิมทีกลุ่มอัศวินนี้เปรียบได้กลับทหารแพทย์ ใส่ชุดขาว เอาไว้ช่วยทหารที่บาดเจ็บหรือป่วยในสงคราม แต่ไหงไปๆ มาๆ กลายเป็นกลุ่มอัศวินหลักของสงคราม Crusade ก็ไม่รู้ครับ
ซึ่งกลุ่มอัศวินไนต์ส เทมปลาร์ นี้เองก็ว่ากันว่าเป็นผู้ครอบครองหีบพันธสัญญาในคัมภีร์ไบเบิลที่หายไปด้วยซ้ำ
และนั่นก็ต่อเนื่องมาถึงเรื่องบันทึกเร้นลับที่ปราสาทโบราณ เรนน์ เลอ ชาโต ว่ากันว่ามีสมบัติล้ำค่าซ่อนอยู่ แต่ท้ายที่สุดถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครเจอสมบัติที่ว่านั่นเลย
ปราสาทที่ว่าอยู่ประเทศฝรั่งเศส เสียดายตอนไปเที่ยวล่าสุดผมไม่ได้แวะไป ไม่รู้จะมีโอกาศได้แวะอีกหรือเปล่า
ต่อมาคือเรื่องเร้นลับอย่างแม่มด กับกรณีการล่าแม่มด ซึ่งก็ถูกนำไปใช้จำกัดบุคคลทางการเมืองหลายครั้งเหมือนกัน อย่างตอนวีรสตรี Jone of Arc ที่เคยเป็นภาพยนต์ดังในสมัยก่อน
วีรสตรีคนนี้เริ่มต้นจากเป็นชาวบ้านคนธรรมดา แล้วก็เกิดนิมิตว่าได้ยินเสียงบัญชาจากพระเจ้า ก็เลยดั้งด้นไปขอนำกองทัพเพื่อขับไล่พวกอังกฤษไปจากฝรั่งเศส
หลังจากเธอได้รับชัยชนะอย่างไม่น่าเชื่อ จากศรัทธาอันแรงกล้าว่าตัวเองได้ยินเสียงพระเจ้า จากสตรีผู้ไม่เคยฝึกรบจับดาบ สามารถพากองทัพฝรั่งเศสเอาชัยชนะต่อศัตรูชาติอังกฤษได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ท้ายที่สุดเมื่อเธอกลายเป็นขวัญใจประชาชนมากเกินไป ทางการฝรั่งเศสจึงเห็นเธอเป็นภัยต่อความมั่นคง เลยต้องการยึดอำนาจเธอมา
เธอเลยถูกตัดสินว่าเป็นแม่มด อารมณ์ก็คล้ายๆ ยักข้อหาความมั่นคงในบ้านเราวันนี้ครับ
สุดท้ายเธอแล้วถูกกำจัดแบบแม่มด พอเห็นภาพการเมืองตั้งแต่อดีตที่ไม่ต่างจากปัจจุบันไหมครับ ผู้มีอำนาจเดิมไม่ต้องการแบ่งอำนาจให้ใคร ยิ่งเป็นประชาชนยิ่งแล้วใหญ่ ไม่มีวันเกิดขึ้นได้หรอกครับ
จากแม่มดข้ามมายังเรื่องเร้นลับโลกใหม่แต่ยังไม่ล่าสุด กับเรื่องราวของจานบินลึกลับ หรือที่เรียกกันสั้นๆ ติดปากว่า UFO
แล้วก็ต่อไปถึง Area 51 ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ดังเรื่อง ID4
แล้วก็มีเรื่องราวของการเดินทางข้ามเวลา ที่ทางอเมริกาพยายามสร้างเทคโนโลยีนี้ขึ้นมา ก็เป็นส่วนหนึ่งของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ที่ถูกกล่าวว่าเป็นพื้นที่ลึกลับอันตรายของต่างดาว
จบท้ายหนังสือเรื่องเร้นลับโลกด้วยเรื่องราวของพีระมิดชาวมายา และนี่ก็คือการสรุปสั้นๆ ของหนังสือเรื่องเร้นลับโลกเล่มนี้ครับ
สรุปหนังสือ เรื่องเร้นลับโลก
เพราะหลายเรื่องที่เรารู้อาจไม่ใช่ แต่อีกหลายเรื่องที่เราไม่รู้อาจจริงกว่าที่คิดก็ได้
อ่านเติมเป็นอาหารสมอง เผื่อวันนึงต้องใช้จะได้ไม่เสียใจที่ทำไมไม่อ่านให้รู้ไว้ครับ
อ่านแล้วเล่า เล่มที่ 10 ของปี 2023
สรุปหนังสือ เรื่องเร้นลับโลก
สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่ แต่สิ่งที่ไม่เห็นอาจใช่
World of Knowledge Series
สำนักพิมพ์โนเบิ้ลบุ๊คส์
พรหมพร พิชชานันท์ เขียน
อ่านสรุปหนังสือแนวนี้ต่อ > https://summaread.net/tag/world-of-knowledge-series/
สนใจซื้อหนังสือเล่มนี้ > https://www.saengdao.com/product/9786163882400/