สรุปหนังสือ Sapiens เซเปียนส์ ประวัติศาสตร์ฉบับกราฟิก หรือเอาเข้าจริงผมว่าน่าจะเรียกว่าฉบับการ์ตูนมากกว่าครับ ใครที่เคยอ่านหนังสือ Sapiens ฉบับเล่มหนามาพอมาอ่านเล่มนี้ก็จะเหมือน Recap เร็วๆ สั้นๆ อีกทีหนึ่ง ส่วนใครที่ยังไม่มีพื้นฐานการอ่านเซเปียนส์มาก่อนเลย ผมว่าเริ่มต้นจากเริ่มนี้เพื่อเข้าใจภาพรวม ก่อนจะไปอ่านหนังสือเล่มใหญ่เพื่อให้เข้าใจทั้งหมดก็น่าจะช่วยได้ไม่น้อย

สิ่งที่ผมได้ Recap อีกครั้งจากการอ่านหนังสือ Sapiens เซเปียนส์ ประวัติศาสตร์ฉบับการ์ตูนเล่มนี้คือ

1. มนุษย์เราล้วนแต่เป็นสายพันธุ์เดียวกัน

บางครั้งเรามีคำถามว่า สัตว์ที่ดูเป็นสายพันธุ์หรือสปีชีส์เดียวกันนั้นควรจะต้องดูเหมือนกันหรือคล้ายกันมากไม่ใช่หรอ วันนี้มนุษย์เราหลงเหลือแค่เพียงสายพันธุ์เซเปียนส์ชนิดเดียวจริงๆ หรือ ก็ในเมื่อดูฝรั่งต่างกับเอเซียมหาศาล เอเซียก็ต่างจากแอฟริกาอย่างมาก ทำไมจึงบอกว่ามนุษย์เราที่ดูต่างกันมากขนาดนั้นจึงเป็นสปีชีส์เดียวกันทั้งหมดหละ

ข้อสรุปง่ายๆ คือ ถ้าเป็นสิ่งมีชีวิตต่างสายพันธุ์กัน เวลาผสมพันธุ์กันจะไม่สามารถออกลูกที่ให้ลูกต่อไปได้ สรุปง่ายๆ คือลูกที่ออกมาจะเป็นหมันนั่นแหละครับ

คิดถึง ม้า กับ ลา ก็ได้ครับ ที่ผสมพันธ์กันแล้วออกมาเป็น ล่อ นึกถึงเจ้าดองกี้ในการ์ตูนเรื่อง Sherk ก็ได้ครับ เจ้าล่อนี่แหละคือสัตว์ที่เป็นหมัน ไม่สามารถผสมพันธุ์แล้วทำให้เกิดลูกหลานสายพันธุ์ตัวเองต่อไปได้

ดังนั้นการที่มนุษย์ไม่ว่าจะดูภายนอกต่างกันมากขนาดไหน แต่เมื่อผสมพันธุ์หรือมีเซ็กส์กันแล้วก็สามารถมีลูกได้ทั้งนั้น นี่จึงเป็นข้อสรุปง่ายๆ ให้เราแน่ใจว่า มนุษย์ทุกคนบนโลกล้วนเป็นเซเปียนส์เหมือนกันอย่างแน่นอน

2. มนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวที่คลอดก่อนกำหนด

ถ้าเราสังเกตดีๆ สิ่งมีชีวิตทั้งหลายบนโลกเกิดขึ้นมาล้วนช่วยตัวเองได้ไม่มากก็น้อย ช้าง เกิดมาปุ๊บก็สามารถเดินได้ สุนัขก็สามารถคลานได้ สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่บนโลกเกิดขึ้นมาแล้วล้วนช่วยตัวเองได้ในระดับหนึ่งทั้งนั้น

แต่มนุษย์นั้นต่างออกไป ตอนเราทุกคนเกิดขึ้นมานั้นไม่สามารถช่วยอะไรตัวเองได้เลย เราไม่สามารถเดินไปหาอาหารหรือยกหัวกินนมแม่ด้วยตัวเองได้ เราไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากร้อง ร้อง ร้อง แล้วก็ร้อง เพื่อเรียกความสนใจจากพ่อแม่ และผู้ใหญ่รอบตัวให้ต้องประคบประหงมเราเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1-2 ปี

พอผ่าน 1 ปีกว่าแรกไปเราถึงจะเริ่มเดินได้บ้าง เอาจริงๆ มนุษย์เราต้องเข้าปีที่สองถึงจะพอช่วยเหลือตัวเองได้เหมือนสิ่งมีชีวิตแรกเกิดอื่น

นั่นก็เพราะธรรมชาติสั่งให้มนุษย์เราต้องคลอดตัวอ่อนออกมาก่อนกำหนด แต่เหตุผลเบื้องหลังอย่างหนึ่งที่หนังสือเซเปียนส์เล่มนี้บอกก็คือ เพราะเราเริ่มเดินตัวตรง ยืนตัวตรง จึงทำให้กระดูกอุ้งเชิงกรานของมนุษย์เพศหญิงไม่สามารถคลอดลูกในท้องถ้าต้องรอให้ทารกนั้นพร้อมช่วยตัวเองได้หลังคลอดแบบสัตว์อื่น

เราจึงเริ่มคลอดออกมาก่อนกำหนดมากขึ้น จนเจอช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดก็คือ 9 เดือนในปัจจุบัน ถ้ามนุษย์เราไม่ยืนตัวตรงสง่าผ่าเผยอย่างทุกวันนี้ ป่านนี้เวลาเราคลอดลูกออกมาทีเราคงไม่ต้องประคบประหงมทารกแรกเกิดเหมือนที่เป็นกันมา

ธรรมชาตินี่น่าสนใจจริงๆ ครับ

3. บริษัทจำกัด คือนวัตกรรมที่พลิกมนุษยชาติ

การก่อตั้งบริษัทจำกัด คือนวัตกรรมที่ยกระดับเศรษฐกิจของมนุษยชาติอย่างไม่น่าเชื่อ หนังสือเล่มนี้บอกให้รู้ว่าแต่เดิมทีการก่อตั้งบริษัทสักอย่าง คุณจะต้องรับผิดชอบต่อบริษัทนั้นด้วยชีวิต เช่น ถ้าคุณทำเครื่องใช้ไฟฟ้าขาย แล้วเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นเกิดขัดข้องทำให้ผู้ใช้งานเสียชีวิต คุณจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายของลูกค้าอย่างถึงที่สุด และจากเรื่องนี้เองจึงทำให้การก่อตั้งบริษัทในสมัยก่อนเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากรับผิดชอบเลย

นั่นคือบริษัทแบบไม่จำกัด นั่นก็คือไม่จำกัดความรับผิดชอบครับ

แต่บริษัทสมัยนี้ เราจะเห็นคำว่า “จำกัด” ต่อท้าย นั่นหมายความว่าในทางกฏหมายบริษัทมีความรับผิดชอบที่จำกัด เช่น ถ้าลูกค้าซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นไปแล้วถูกไฟช๊อตจนเสียชีวิต ลูกค้าคนนั้นจะไม่สามารถเรียกร้องได้ตามใจชอบ แต่มูลค่าสูงสุดที่ลูกค้าจะเรียกร้องได้คือมูลค่าที่บริษัทนั้นเป็นอยู่ในเวลานั้น

นั่นคือบริษัทจำกัด ที่จำกัดความรับผิดชอบให้พ้นตัว ให้รับผิดชอบอย่างมีขอบเขต จึงส่งผลให้เกิดบริษัทมากมายขึ้นบนโลก และบริษัทเหล่านั้นเองก็ที่เร่งสร้างความเจริญให้เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ครับ

4. The Power of Storytelling จินตนาการของเซเปียนส์ที่พลิกมนุษยชาติ

ถัดจากบริษัทจำกัดที่เป็นนวัตกรรมสำคัญที่พลิกโลกใบนี้ ก็คือการจดบันทึกเขียนอะไรสักอย่างขึ้นมาแล้วเราทุกคนก็เชื่อร่วมกัน อย่างบริษัทเครื่องทำน้ำอุ่นของเรา ถ้าถามว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่ ก็ไม่ มันเป็นสิ่งที่มีตัวตนหรือไม่ ก็ไม่ ถ้าอย่างนั้นบริษัทแห่งหนึ่งคืออะไร หรือแบรนด์หนึ่งคืออะไร หรือแม้กระทั่งประเทศหนึ่งคืออะไร

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความเชื่อ ความเชื่อที่เราทุกคนยึดถือร่วมกัน จากนั้นเราก็บันทึกความเชื่อนั้นเป็นหลักฐาน สมัยก่อนด้วยน้ำหมึกปากกาจรดบนกระดาษ สมัยนี้อาจบันทึกลงบนอินเทอร์เน็ต ลงบนเซิฟเวอร์ หรือแม้แต่บันทึกลงบน Blockchain ก็ตามครับ

นั่นหมายความว่าต่อให้เราตายไป บริษัทที่เราก่อตั้งไว้ก็จะไม่ตายตาม แต่มันจะยังคงทำงานสืบทอดตามภารกิจเป้าหมายที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องยึดถือร่วมกัน

เป็นอย่างไรครับ กับพลังการเล่าเรื่องและความเชื่อร่วมกันของเซเปียนส์ที่พลิกโลกใบนี้อย่างไม่น่าเชื่อ

สรุปหนังสือ Sapiens เซเปียนส์ ประวัติศาสตร์ฉบับกราฟิก หรือฉบับการ์ตูน

ใครที่ชอบเรื่องราวเกร็ดความรู้ประวัติศาสตร์ ใครอยากรู้ว่ามนุษยชาติมีต้นกำเนิดอย่างไร เดินทางผ่านอะไรมาบ้าง และน่าจะไปในทิศทางไหน ผมแนะนำให้คุณอ่านหนังสือชุดเซเปียนส์ครับ

เพราะการจะเดินไปยังอนาคตข้างหน้าอย่างมั่นคง เราต้องเรียนรู้จากอดีตที่เคยพลาดมา เพื่อจะได้ป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำซาก เพราะคนที่ฉลาดกว่า คือคนที่เรียนรู้จากความผิดพลาดผู้อื่นครับ

อ่านแล้วเล่า สรุปหนังสือเล่มที่ 34 ของปี

สรุปหนังสือ Sapiens เซเปียนส์ ประวัติศาสตร์ฉบับกราฟิก (ฉบับการ์ตูน)
The Birth of Humankind
เล่ม 1 กำเนิดมนุษยชาติ
Yuval Noah Harari เขียน
ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์ แปล
สำนักพิมพ์ Gypze

อ่านสรุปหนังสือชุด Sapiens ในอ่านแล้วเล่าต่อ > https://summaread.net/?s=sapiens

สั่งซื้อหนังสือเล่มนี้ทางออนไลน์ > https://www.naiin.com/Product/Detail/523995

By Nattapon Muangtum

จากนักอ่านที่เริ่มอยากหัดเขียน จากการที่ต้องอ่านเพราะความจำเป็น กลายเป็นอ่านเพราะหลงไหล, สวัสดีครับผมชื่อหนุ่ย ผมทำงานด้าน Digital and Data Marketing ผมยังมีเพจการตลาดอีกเพจที่อยากฝากให้ลองอ่านดูนะครับ https://www.facebook.com/everydaymarketing.co/