สรุปหนังสือย่องเบาเข้าญี่ปุ่น หนังสือแนวใหม่สำหรับผม เป็นแนวออกจะไปทางนวนิยายเรื่องแต่งผสมเกร็ดความรู้บนเรื่องจริง ฉะนั้นเลยขอสรุปเฉพาะเกร็ดความรู้เรื่องญี่ปุ่นที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนและคิดว่าน่าสนใจแทนแล้วกันนะครับ
Made in USA คือผลิตในเมืองยูซ่าประเทศญี่ปุ่น
ต้องบอกก่อนว่าประเทศญี่ปุ่นในยุคแรกเริ่มสร้างประเทศ ก็เริ่มจากเป็นประเทศแรงงานราคาถูก ผลิตสินค้าเลียนแบบตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ก่อนจะกลายเป็นมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีผู้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ มากมายในวันนี้
ณ วันนั้นสินค้าที่คนอเมริกาชอบ และคนในประเทศต่างๆ ทั่วโลกชอบก็หนีไม่พ้นสินค้าที่ผลิตในสหรัฐอเมริกา หรือ Made in U.S.A. ก็ในเมื่อผู้คนต่างชอบจะซื้อสินค้าที่มีตราว่าผลิตในอเมริกามาก ญี่ปุ่นก็เลยเกิดไอเดียว่าถ้างั้นเราเอาเมืองหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นเราที่ชื่อว่า ยูซ่า (ไม่รู้ว่าเมืองนี้มีจริงมาตั้งแต่ต้นไหม หรือเพิ่งมาคิดเอาได้ว่าต้องมีแล้วจึงสร้างมันขึ้นมา) ก็เลยผลิตสินค้าเลียนแบบฝั่งอเมริกาแล้วก็ติดป้ายว่า Made in USA ที่ไม่ได้หมายถึงประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะถ้าเป็นแบบนั้นต้องเขียนโดยมีจุดตัวย่อว่า U.S.A. ถึงจะเท่ากับ United State of America
เรียกได้ว่าหัวหมอยิ่งกว่าคนจีนที่เราเชื่อกัน เรื่องนี้กลายเป็นคดีความกันยกใหญ่ในเวลานั้น แต่สุดท้ายญี่ปุ่นก็ชนะไปด้วยการบอกว่าเราไม่ได้โกหกว่าผลิตในอเมริกา แต่มันคือการผลิตในเมืองอุษาประเทศญี่ปุ่น แล้วพอเขียนเป็นภาษาอังกฤษก็คือ USA ที่บังเอิญคล้ายชื่อย่อสหรัฐอเมริกาไงเล่า!!
จากการเลียนแบบนานวันเข้าก็กลายเป็นการเรียนรู้ที่จะสร้างนวัตกรรมของตัวเอง นานไปกว่านั้นจากนักปลอมของคนอื่น กลายเป็นผู้สร้างความเป็นของแท้ Original แบบ Japan ที่ชาติอื่นๆ อยากเลียนแบบแทนมากมาย
ด้วยความที่คนญี่ปุ่นก็ชอบคิดนอกกรอบ คิดอะไรที่หลุดโลกแบบสุดๆ ไม่ว่าจะการ์ตูน คาแรคเตอร์ คาราโอเกะ เกม และอื่นๆ อีกมากมาย ถ้าดูบริบทโลกทุกวันนี้ก็ไม่ต่างจากจีนมากนัก ที่เคยเริ่มต้นจากการเป็นนักเลียนแบบจนทั่วโลกปวดหัว กลายเป็นผู้สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ มากมายส่งออกให้คนทั้งโลกจ่ายเงินซื้อไปใช้แล้ว
คนญี่ปุ่นบอกว่าประเทศเขาไม่ปลอดภัยเท่าเดิมแล้วนะ!!
เป็นบทสัมภาษณ์จากตำรวจคนหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2002 เขาบอกว่ามีงานให้ทำมากขึ้นตั้งแต่วันนั้น มีขโมย มีความรุนแรง มีวัยรุ่นจุดไฟเผาบ้านเรือนเพื่อความสนุกแม้แต่ในตอนกลางวัน แล้วก็มีคนถูกปล้นด้วยมีด!!
ไม่น่าเชื่อว่าหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก แต่คนญี่ปุ่นเองกลับบอกว่าทุกวันนี้ไม่ปลอดภัยเท่าเดิมมาตั้งแต่ยี่สิบกว่าปีก่อน ไม่รู้ว่าถ้าเทียบกับหลายประเทศในยุโรปจะเป็นอย่างไร ถ้าเทียบกับประเทศไทยบ้านเราคงต่างกันไปคนละขั้ว
ส่วนตัวผมยังรู้สึกว่าประเทศญี่ปุ่นยังคงเป็นประเทศที่รู้สึกปลอดภัยมากๆ แม้จะเดินถือของมีค่าไปตามตรอกซอกซอยเปลี่ยวยามดึก
วิวัฒนาการซูชิ อาหารจานด่วนของญี่ปุ่น
ซูชิ ข้าวปั้นขนาดเล็กที่เอาเนื้อปลามาแปะด้านบน หนึ่งในเมนูอาหารยอดนิยมระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น ใครจะไปคิดว่าจุดกำเนิดมันคือเมนูอาหารจานด่วนที่กินแบบง่ายๆ แค่ข้าวคำปลาชิ้น แปะรวมกันกลายเป็นของที่อยู่ท้องได้แล้ว
เปรียบกับอาหารฝรั่งก็เหมือนกับแฮมเบอเกอร์อะไรอย่างนั้น คนกินซูชิที่เป็นคนญี่ปุ่นแต่เดิมจริงๆ จะใช้มือหยิบแล้วจับเข้าปาก พอเห็นภาพความเป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดของชาวญี่ปุ่นไหมครับ
เดิมทีร้านขายซูชิก็จะอยู่ตามข้างถนนทั่วไป แต่พอนานเข้าเริ่มเป็นที่นิยมของคนทุกชนชั้นรัฐบาลก็เลยเข้ามาควบคุมดูแลให้มีมาตรฐาน แล้วจึงเกิดเป็นร้านซูชิจริงจังขึ้นมาครับ
ต้องบอกก่อนว่าแต่เดิมเนื้อปลาหรือข้าวจะใช้กรรมวิธีการหมักให้มีรสเปรี้ยวหน่อยๆ แต่เมื่อการหมักต้องใช้ระยะเวลาในการรอให้ได้ที่ ก็เริ่มมีคนคิดค้นนวัตกรรมใหม่ในการทำซูชิ จากหมักมาสู่การใช้น้ำส้มเพื่อให้ได้รสเปรี้ยวเหมือนการหมัก
นี่เลยเป็นจุดสังเกตว่าถ้าร้านไหนใช้น้ำส้ม ก็คงเป็นแค่ร้านซูชิธรรมดาทั่วไป แต่ถ้าร้านไหนใช้การหมักที่ต้องรอ น่าจะพรีเมียมกว่าหรือเปล่า
แต่อีกหนึ่งเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจ มีคนบอกว่าทุกวันนี้เมืองที่ทำซูชิได้ดีที่สุดในโลกไม่ใช่โตเกียว ไม่ใช่ญี่ปุ่น แต่เป็น New York เพราะเชฟซูชิดังๆ ล้วนย้ายไปอยู่ที่นั่น ไว้มีโอกาสไปเที่ยวนิวยอร์คจะลองหาร้านซูชิอร่อยๆ กินดูสักครั้งนะครับ
ซูชิเนื้อวาฬ การต่อสู้ของสงครามทางวัฒนธรรม
เพิ่งรู้นะครับว่าคนญี่ปุ่นยังคงกินเนื้อปลาวาฬอยู่ ทั้งที่เคยได้ยินข่าวว่าทั่วโลกล้วนออกมาประกาศห้ามล่าวาฬนานแล้ว น่าสนใจที่ปลาวาฬนั้นมีจำนวนมากจนค่อนไปทางมากเกินไป จนส่งผลให้พวกมันไปกินปลาเล็กที่เป็นอาหารมนุษย์ไปเป็นจำนวนมาก
ญี่ปุ่นเลยเป็นชาติเดียวหรือหนึ่งในไม่กี่ชาติที่ไม่ได้เข้าร่วมสนธิสัญญาการห้ามล่าปลาวาฬ ด้วยเหตุผลส่วนตัวของพวกเขา และพวกเขายังบอกว่าแรกเริ่มเดิมทีหลังสงครามโลกครั้งที่สอง อเมริกานี่แหละที่เป็นผู้กระตุ้นให้พวกเขาออกล่าวาฬมากขึ้นเรื่อยๆ
แม้ทุกวันนี้คนรุ่นใหม่ชาวญี่ปุ่นจะไม่ค่อยกินเนื้อวาฬแบบคนยุคก่อนวันวาน ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ว่าฝั่งอเมริกาก็พยายามสร้างความถูกต้องของการห้ามล่าปลาวาฬด้วยการสร้างภาพยนต์เกี่ยวกับความน่ารักของปลาวาฬมากมาย จะเรียกว่าเป็นการ Propoganda ก็ว่าได้ หรือทุกวันนี้คงต้องใช้คำว่า Soft Power กระตุ้นให้คนทำตามด้วยพลังนุ่มนิ่มโดยไม่ต้องใช้ความรุนแรงบีบบังคับแบบแต่ก่อน
ญี่ปุ่นเป็นชาติที่เตรียมตัวหาข้อมูลเป็นอย่างดีตั้งแต่สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่สองแล้ว
ในสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวญี่ปุ่นนั้นรู้จักประเทศอเมริกาเป็นอย่างดี แถมยังรู้จักประเทศอื่นๆ ในเอเซียนเป็นอย่างดีตั้งแต่วันนั้น พวกเขามีแผนที่ของอเมริกาโดยละเอียดก่อนที่นายพลเรือเพอร์รี่จะเข้ามาบังคับให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศด้วยเรือดำ
ญี่ปุ่นเองก็เรียนรู้วิทยาศาสตร์ของโลกตะวันตกมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 เรียนเรื่องการทหารจากรัสเซีย เรียนเรื่องเศรษฐกิจจากอังกฤษไปพร้อมกัน เรียกได้ว่าญี่ปุ่นเป็นชาติที่แม้จะปิดประเทศแต่ก็ยังเปิดแสวงหาความรู้ใหม่ๆ เพื่อนำมาใช้พัฒนาประเทศตลอดเวลา
เหมือนที่ตอนชาวตะวันตกได้ขึ้นฝั่งญี่ปุ่นครั้งแรกว่า ไม่รู้จะขายอะไรให้กับประเทศนี้ เพราะดูผู้คนในประเทศนี้ค่อนข้างมีวิถีชีวิตที่ดีทีเดียว ชาวญี่ปุ่นรู้จักซื้อของฟุ่มเฟือยตั้งแต่ยุคศตวรรณที่ 18 และนานกว่านั้นมาก การจะซื้อหาสินค้าฟุ่มเฟือยได้ก็หมายความว่าต้องมีเงินเหลือกินเหลือใช้จริงๆ
ดังนั้นในความเป็นจริงญี่ปุ่นเป็นชาติที่เจริญมาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาเจริญในช่วงไม่กี่สิบปีหลังสงครามโลกครั้งที่สองที่ผ่านมา
ระบบวิดีโอ VHS ชนะคู่แข่งจนครองตลาดได้เพราะอุตสาหกรรมหนังโป๊
ใครที่เป็นวัยรุ่น Gen Y ตอนต้นและกลาง อาจพอจำได้ว่าสมัยก่อนเวลาเราจะดูภาพยนต์หรือหนังสือเรื่อง เราต้องไปหาเช่าวิดีโอที่ร้านเช่าหนังแถวบ้าน สมัยนั้นมีร้านเช่าหนังเกิดขึ้นมากมาย ผิดกับสมัยนี้ถ้าอยากดูอะไรก็แค่ออนไลน์จ่ายรายเดือนเอา
ในสมัยที่ผู้คนยังดูหนังผ่านม้วนวิดีโอเทปขนาดหใญ่ๆ ยุคนั้นมีสองนวัตกรรมเกิดขึ้นในเวลาใกล้กัน ฝั่ง Sony คิดค้นระบบเทป Betamax ที่บันทึกภาพและเสียงได้คุณภาพดีกว่ามาก อีกฝั่งหนึ่งคิดค้นเทคโนโลยี VHS ขึ้นมา แม้จะคุณภาพและเสียงไม่ดีเท่าแต่กลับเป็นผู้ชนะในสงครามมาตรฐานวิดีโอเทปวันนั้นก็เพราะได้อุตสาหกรรมหนังโป๊สนับสนุน
VIDEO
ถ้าใครเคยดูซีรีส์เรื่อง Naked Director ของ Netflix ก็จะมีการสอดแทรกเรื่องนี้เข้าไปอยู่ จุดที่ทำให้ระบบเทปวิดีโอ VHS ชนะ Betamax ขาดก็เพราะอุตสาหกรรมภาพยนต์ผู้ใหญ่หรือหนังโป๊ 18+ เข้าร่วมด้วยการเร่งผลิตผลงานออกมามากมาย จนสุดท้ายทำให้ผู้คนก็เลือกที่จะซื้อเครื่องเล่น VHS เพราะมีหนังโป๊ให้เลือกดูมากมาย จากจุดนั้นเองก็ทำให้ระบบ VHS ครองตลาดขาดเป็นเวลายาวนานหลายสิบปีก่อนจะเข้าสู่ยุค DVD และตามมาด้วย Streaming อย่างทุกวันนี้
ทำไมประธานบริษัทญี่ปุ่นจึงสำคัญดุจพระเจ้า
ท่านประธาน หรือซาโจ้ ทำไมคนญี่ปุ่นถึงให้ความสำคัญกับคนตำแหน่งนี้มากดุจพระเจ้า เพราะท่านประธานในบริษัทญี่ปุ่นเป็นยิ่งกว่าหัวเรือหลัก เป็นเสมือนคุณพ่อผู้ดูแลลูกๆ พนักงานทุกคนที่มักเป็นหัวหน้าครอบครัวอีกทีให้อยู่รอด ด้วยแนวคิดแบบพ่อปกครองลูกของบริษัทญี่ปุ่นเวลานั้น ทำให้ท่านประธานเต็มไปด้วยความรับผิดชอบในแบบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
และเงินเดือนท่านประธานเองก็ไม่ได้สูงอะไรมาก ไม่เหมือนกับตำแหน่ง CEO ของโลกฝั่งตะวันตก จะสบายได้ก็ต่อเมื่อพ้นจากตำแหน่งท่านประธานไปเป็นที่ปรึกษาหรือบอร์ดบริษัทสบายๆ แต่ในระหว่างอยู่ในตำแหน่งท่านประธานบริษัทหรือซาโจ้นั้นเต็มไปด้วยความเครียดและความกดดันมากมาย
ผู้เขียนให้สังเกตผ่านห้องพักในโรงแรมที่ชื่อว่า President Suite จะเป็นห้องที่ใหญ่โตโอ่อ่า แต่ไม่ได้พักผ่อนสบายมาก ในห้องนั้นจะมีโต๊ะประชุมตัวแข็งๆ เพื่อเตรียมพร้อมการประชุมบริษัทเมื่อต้องมาพักยังโรงแรมตลอดเวลา
พออ่านถึงตรงนี้ก็เลยเข้าใจแล้วว่า ตำแหน่งบางอย่างมันคือเกียรติและความภาคภูมิมากกว่าจะเป็นแค่ผลตอบแทนทางการเงิน ช่างเป็นวัฒนธรรมแนวคิดที่น่าสนใจมากจริงๆ
ไว้จะหาโอกาสไปลองนอนห้อง President Suite บ้างละ
กฏการใช้บ่อน้ำร้อนออนเซ็น
วัฒนธรรมการอาบน้ำรวมของญี่ปุ่นนั้นมีความแตกต่างจากชาติอื่นอย่างมาก พวกเขามีบ่อน้ำร้อนออนเซ็นกระจายอยู่เต็มเมืองแบบลับๆ ที่คนนอกไม่รู้ และนั่นก็ยิ่งทำให้การได้ไปลองแช่หรืออาบบ่อน้ำร้อนออนเซ็นกลายเป็นหนึ่งเป้าหมายของนักท่องเที่ยวที่อยากลองให้ได้
แต่การจะเข้าใช้บริการบ่อน้ำร้อนออนเซ็นทั่วไปได้ก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะพวกเขามีกฏระเบียบมากมาย ตั้งแต่ห้ามมีรอยสัก ต้องอาบน้ำล้างตัวให้สะอาดก่อนจะลงแช่บ่อ ไม่เสียงดังโวยวายเพราะถือเป็นที่พักผ่อนสงบจิตใจ แถมยังต้องเปลื้องผ้าโป๊ะทั้งหมด ห้ามโดนตัวคนอื่น ก็เลยทำให้หลังๆ บ่อน้ำร้อนออนเซ็นจำนวนมากงดให้บริการชาวต่างชาติอย่างเห็นได้ชัด
แต่นั่นก็ส่งผลกระทบต่อชาวต่างชาติที่มาอยู่อาศัยหรือทำงานในญี่ปุ่นจนกลายเป็นคนในประเทศแล้วก็ว่าได้ แค่หน้าตาดูเป็นฝรั่งต่างชาติ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจและเคารพวัฒนธรรมญี่ปุ่นแต่อย่างไร
เรื่องนี้เคยกลายเป็นประเด็นใหญ่โตพอสมควร กับการเลือกไม่รับลูกค้าชาวต่างชาติ ขนาดที่คนญี่ปุ่นเองก็ไม่ได้เห็นด้วยเสมอไป สุดท้ายกลายเป็นเรื่องราวขึ้นโรงขึ้นศาลในการเลือกปฏิบัติ และก็ต้องจ่ายค่าชดเชยให้ลูกค้าชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ญี่ปุ่นคนนั้น
ส่วนตัวผมไม่เคยแช่บ่อออนเซ็นรวม เคยแต่แช่บ่อออนเซ็นส่วนตัวตอนไปเที่ยวฟูจิ แม้โรงแรมจะมีบ่อออนเซ็นรวมขนาดใหญ่มาก แต่ผมก็ยอมรับตรงๆ ว่าไม่กล้าเพราะด้วยกฏว่าต้องเปลือยทั้งหมด และห้ามนำโทรศัพท์มือถือติดตัวเข้าไปด้วยครับ
สรุปหนังสือย่องเบาเข้าญี่ปุ่น
เป็นหนังสือที่เล่าเรื่องญี่ปุ่นในมุมใหม่ที่ผมไม่เคยอ่านมาก่อน เล่าผ่านสไตล์นวนิยายหรือเรื่องแต่งที่ไม่มีอยู่จริง แต่ใช้ความจริงเป็นตัวเดินเรื่อง แล้วก็เล่าเรื่องราวที่ไม่เคยรู้ของญี่ปุ่นมากมายให้ติดตาม ใครชอบเรื่องราวของญี่ปุ่นผมว่าหนังสือเล่มนี้มีอะไรที่ไม่เคยรู้อีกเยอะ ลองหยิบมาอ่านดูนะครับ
อ่านแล้วเล่า เล่มที่ 26 ของปี
สรุปหนังสือ ย่องเบาเข้าญี่ปุ่น โตมร สุขปรีชา เขียน สำนักพิมพ์ SALMON
อ่านสรุปหนังสือแนวนี้ในอ่านแล้วเล่าต่อ https://summaread.net/category/japan/
สั่งซื้อออนไลน์: https://s.shopee.co.th/5KrfbA8226