The Little Book of Ikigai อิคิไก ความหมายของการมีชีวิตอยู่
ถ้าให้สรุปสั้นๆกับหนังสือ The Little Book of Ikigai เล่มนี้ผมก็สรุปได้ว่า การได้ทำคือรางวัลในตัวมันเอง เพราะภาพรวมของทั้งเล่มคือการบอกให้เราเข้าใจว่า แก่นของอิคิไกนั้นคือการที่บอกให้เรารู้ว่าอย่าคาดหวังรางวัลจากการกระทำนั้น เพราะนั่นคือบ่อเกิดของความทุกข์ทั้งปวง เหมือนกับหลายครั้งเรามักจะได้ยินคนพูดกันว่า ทำไปทำไม? หรือ ทำไปเพื่ออะไร? บอกให้รู้ว่ามนุษย์เรานั้นถูกขับเคลื่อนด้วยเป้าหมาย แต่อิคิไกคือให้เรากลายเป็นเป้าหมายของตัวเราเอง
โคดาวาริก็ไม่ได้มีแต่คนญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ในศาสดาผู้โด่งดังอย่าง Steve Jobs ก็เป็นคนที่มีโคดาวาริในตัวสูงมากอย่างน่าทึ่ง และนั่นก็แสดงออกผ่านสินค้าต่างๆของ Apple แต่สิ่งที่เราจะเห็นใกล้ตัวที่สุดก็คือโทรศัพท์อย่าง iPhone นั่นเองครับ
iPhone เป็นผลงานการออกแบบในรายละเอียดขั้นสุด สุดขนาดที่ว่าถ้าเป็นคนอื่นที่เป็นเจ้าของบริษัทคงมองข้ามเรื่องเล็กๆเหล่านั้นไปนานแล้ว และก็รีบเข็นสินค้าออกมาขายให้เร็วที่สุดเพื่อโกยกำไร แต่เป็นโชคดีของ Apple ที่ Steve Jobs ไม่ใช่แบบนั้น เค้าทำจน iPhone แทบจะใช้คำว่า Perfect ได้ในการเปิดตัวออกมาแต่ละครั้งที่ Steve Jobs ยังอยู่ และนั่นก็ทำให้เกิดสาวก Apple ขึ้นมากมายบนโลกครับ
สรุปหนังสือ The Little Book of Ikigai อิคิไก ความหมายของการมีชีวิตอยู่ เมื่อการงานไม่ใช่สิ่งแปลกแยกจากชีวิต ปรัชญาชาวญี่ปุ่นที่จะทำให้คุณอยากตื่นแต่เช้าเพื่อออกไปทำสิ่งที่รัก Ken Mogi เขียน วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ แปล สำนักพิมพ์ MOVE
จากนักอ่านที่เริ่มอยากหัดเขียน จากการที่ต้องอ่านเพราะความจำเป็น กลายเป็นอ่านเพราะหลงไหล, สวัสดีครับผมชื่อหนุ่ย ผมทำงานด้าน Digital and Data Marketing ผมยังมีเพจการตลาดอีกเพจที่อยากฝากให้ลองอ่านดูนะครับ https://www.facebook.com/everydaymarketing.co/
สรุปหนังสือย่องเบาเข้าญี่ปุ่น หนังสือแนวใหม่สำหรับผม เป็นแนวออกจะไปทางนวนิยายเรื่องแต่งผสมเกร็ดความรู้บนเรื่องจริง ฉะนั้นเลยขอสรุปเฉพาะเกร็ดความรู้เรื่องญี่ปุ่นที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนและคิดว่าน่าสนใจแทนแล้วกันนะครับ Made in USA คือผลิตในเมืองยูซ่าประเทศญี่ปุ่น ต้องบอกก่อนว่าประเทศญี่ปุ่นในยุคแรกเริ่มสร้างประเทศ ก็เริ่มจากเป็นประเทศแรงงานราคาถูก ผลิตสินค้าเลียนแบบตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ก่อนจะกลายเป็นมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีผู้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ มากมายในวันนี้ ณ วันนั้นสินค้าที่คนอเมริกาชอบ และคนในประเทศต่างๆ ทั่วโลกชอบก็หนีไม่พ้นสินค้าที่ผลิตในสหรัฐอเมริกา หรือ Made in U.S.A. ก็ในเมื่อผู้คนต่างชอบจะซื้อสินค้าที่มีตราว่าผลิตในอเมริกามาก ญี่ปุ่นก็เลยเกิดไอเดียว่าถ้างั้นเราเอาเมืองหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นเราที่ชื่อว่า ยูซ่า (ไม่รู้ว่าเมืองนี้มีจริงมาตั้งแต่ต้นไหม หรือเพิ่งมาคิดเอาได้ว่าต้องมีแล้วจึงสร้างมันขึ้นมา) ก็เลยผลิตสินค้าเลียนแบบฝั่งอเมริกาแล้วก็ติดป้ายว่า Made in USA ที่ไม่ได้หมายถึงประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะถ้าเป็นแบบนั้นต้องเขียนโดยมีจุดตัวย่อว่า U.S.A. ถึงจะเท่ากับ United State of America เรียกได้ว่าหัวหมอยิ่งกว่าคนจีนที่เราเชื่อกัน เรื่องนี้กลายเป็นคดีความกันยกใหญ่ในเวลานั้น แต่สุดท้ายญี่ปุ่นก็ชนะไปด้วยการบอกว่าเราไม่ได้โกหกว่าผลิตในอเมริกา แต่มันคือการผลิตในเมืองอุษาประเทศญี่ปุ่น แล้วพอเขียนเป็นภาษาอังกฤษก็คือ USA ที่บังเอิญคล้ายชื่อย่อสหรัฐอเมริกาไงเล่า!! จากการเลียนแบบนานวันเข้าก็กลายเป็นการเรียนรู้ที่จะสร้างนวัตกรรมของตัวเอง นานไปกว่านั้นจากนักปลอมของคนอื่น กลายเป็นผู้สร้างความเป็นของแท้ Original แบบ Japan ที่ชาติอื่นๆ อยากเลียนแบบแทนมากมาย ด้วยความที่คนญี่ปุ่นก็ชอบคิดนอกกรอบ คิดอะไรที่หลุดโลกแบบสุดๆ […]