ส่วนเรื่อง AI ที่หลายคนเริ่มกังวลในวันนี้ คุณภิญโญก็ให้มุมมองที่น่าสนใจจากเรื่องราวใกล้ตัวที่เราล้วนมองข้ามกันไปตรงที่ว่า แม้ความฉลาดของ AI จะก้าวล้ำหน้าแซงมนุษย์ไปในเร็ววัน แต่ปัญญาของมนุษย์นั้นก้าวล้ำปไกลกว่าหุ่นยนต์ AI ใดจะตามทันเช่นกัน
เพราะ AI นั้นต้องใช้ Data ในการเรียนรู้ และการยิ่งจะฉลาดได้ก็ยิ่งต้องใช้อภิมหาข้อมูลหรือ Big Data แล้วพัฒนาตัวเองไปทีละขั้น แต่กับมนุษย์นั้นสามารถดวงตาเห็นธรรมจนเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันได้ในชั่วเสี้ยววินาที เฉกเช่นองคุลิมาลที่ได้รับแค่ mini data หรือคำเทศนาไม่กี่ประโยคจากพระพุทธเจ้าจนพลิกจากมหาโจรบาป กลายเป็นพระอรหันต์
ดังนั้นมนุษย์ยุคใหม่ในวันนี้ อาจไม่ต้องศึกษาทักษะความรู้ใหม่ๆมากนัก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ AI ให้ทำในสิ่งที่ถนัด คือเรียนรู้เรื่องต่างๆเพื่อช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้น ส่วนเราก็จะได้กลับไปเรียนรู้ถึงความเป็นมนุษย์ข้างใน เพราะนี่ไม่ใช่หน้าที่ของ AI แต่อย่างใด
สิ่งที่ก้าวล้ำหน้ากว่าปัญญาประดิษฐ์ AI (Artificial Intelligence) ก็คือ “ปัญญาสถิต” ที่อยู่ในจิตใจและกายเราที่เรียกว่า BI (Built-in Intelligence สิ่งนี้ไม่ต้องเทคโนโลยีล้ำหน้าระดับควอนตัมใดๆ แค่รับรู้ถึงลมหายใจในปัจจุบันขณะก็พอ
จากนักอ่านที่เริ่มอยากหัดเขียน จากการที่ต้องอ่านเพราะความจำเป็น กลายเป็นอ่านเพราะหลงไหล, สวัสดีครับผมชื่อหนุ่ย ผมทำงานด้าน Digital and Data Marketing ผมยังมีเพจการตลาดอีกเพจที่อยากฝากให้ลองอ่านดูนะครับ https://www.facebook.com/everydaymarketing.co/