ทางรอดในโลกใบใหม่ แห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่, Shaping the Fourth Industrial Revolution
จากหนังสือการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ก่อนหน้าที่เคยอ่านไป ที่บอกให้รู้ว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่คืออะไร ก็คือการปฏิวัติด้วย Big Data, Machine Learning และ AI ที่มีพื้นฐานมาจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 3 หรือการปฏิวัติดิจิทัล มาคราวนี้ Klaus Schwab ออกมาเขียนหนังสือเล่มต่อเพื่อบอกให้รู้ว่า ถ้าอยากจะรอดให้ได้ต้องทำตัวอย่างไร ในวันนี้มนุษย์ส่วนใหญ่อาจถูกเทคโนโลยีที่สร้างมากดขี่หรือทำลายล้างเราไปโดยไม่รู้ตัว และไม่ใช่แค่เราเท่านั้นที่ต้องปรับตัว แต่ผู้เขียนยังบอกว่าสิ่งสำคัญคือทั้งสังคมและโดยเฉพาะภาครัฐยิ่งต้องปรับตัว เพราะไม่อย่างนั้นแล้วคุณค่าของมนุษย์จะถูกเทคโนโลยีที่สามารถทดแทนได้เข้ามาล้มล้างเราไปหมด หรือเทคโนโลยีที่ทรงพลังไม่น่าเชื่อจะกลายเป็นเครื่องมือของผู้ทรงอำนาจกลุ่มเล็กๆ ที่จะยิ่งใช้กดขี่คนส่วนมากให้ไม่ได้ลืมตาอ้าปากยิ่งกว่าเดิม แง่คิดหนึ่งในเล่มที่น่าสนใจที่ผู้เขียนบอกว่า เรามักอ้างว่าเทคโนโลยีก็เหมือนดาบสองคม เหมือนเหรียญสองด้าน หรือก็เป็นแค่เครื่องมือที่ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้ใช้ เช่น ปืนเดียวกันถ้าอยู่ในมือตำรวจก็ปลอดภัย แต่ถ้าอยู่ในมือโจรผู้ร้ายก็อันตรายเหลือเกิน แต่ความจริงแล้วเทคโนโลยีนั้นก็มีเจตนาในการพัฒนาอยู่เบื้องหลัง ทำอย่างไรเราถึงจะตระหนักถึงความจริงที่สำคัญข้อนี้ ทำอย่างไรถึงจะสร้างเทคโนโลยีด้วยเจตนาที่ดีจากความรับผิดชอบได้แต่แรก เพื่อไม่ให้เทคโนโลยีนั้นกลายเป็นภัยเกินตัวเมื่อตกอยู่ในมือคนไม่ดี ผมว่าเนื้อหาหลักๆของเล่มนี้ไม่ใช่เรื่องเทคโนโลยีเท่าไหร่นัก แต่เป็นเรื่องจิตสำนึกของมนุษย์ที่ต้องยิ่งมีความรับผิดชอบต่อการสร้างและใช้เทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น เพราะเทคโนโลยีนั้นจะยิ่งทรงพลังมากขึ้นทุกที ทั้งจากการประมวลผลที่รวดเร็วราคาถูก รวมกับข้อมูลที่มีให้วิเคราะห์มากมายมหาศาล ดังนั้นการสร้างและใช้อย่างมีความรับผิดชอบหรือจิตสำนึกนั้นจะยิ่งเป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่ายุคไหนๆที่เป็นมา ลองคิดดูซิครับว่าถ้าเราถูกเทคโนโลยีตัดสินว่าเรามีแนวโน้มจะก่ออาชญากรรมในอนาคต จากเทคโนโลยี Big Data และ AI จนมันจำกัดอิสระภาพเราจากแค่ความน่าจะเป็น ทั้งๆที่เราอาจจะไม่ได้ทำสิ่งนั้นเลยในอนาคตก็ได้ นี่คือความน่ากลัวของเทคโนโลยี หรือ Bias เบื้องหลัง Algorithm […]