The Lucky Lay Off โชคดีที่ตกงาน
จากสาวคอนซัลท์ไฟแรงสูงบริษัทข้ามชาติหลายสาขาทั่วโลก ต้องพลิกผันถูกเลย์ออฟกลางคันตอนทำงานอยู่ลอนดอน ชีวิตกำลังสนุกไปด้วยแสงสีเสียงและสิทธิพิเศษจากบริษัท ต้องถูกลิดรอนหายไปแม้แต่วีซ่าก็ด้วย จนต้องเที่ยวทิ้งทวนครั้งสุดท้ายและหาแพลนบีให้ชีวิต จากเงินเดือนสองแสนเหลือหมื่นนิดๆ จากคอนซัลท์สาวออฟฟิศหรูในมหานครโลก ได้ลองมาเป็นสาว NGO ไปลุยถิ่นทุรกันดารที่พม่า จนทำให้เธอได้พบโลกกว้าที่ถ้าเธอไม่ถูกเลย์ออฟในวันนั้นก็คงไม่มีวันนี้ จนเธอได้ทำตามฝันไปเรียนต่อที่มหาลัยชั้นนำของโลกที่อเมริกา ด้วยความพยายามและความฝืนใจมองโลกในแง่ดีของเธอ และโลกใหม่ที่กำลังรอเธออยู่ ทำให้เธอได้กลับมาขอบคุณการเลย์ออฟครั้งนั้นที่ทำให้เธอมีวันนี้ครับ ว่าไปชีวิตผมก็เคยตกงานเพราะถูกเลย์ออฟตอนบริษัทที่ดูรุ่งโรจน์ประกาศปิดตัวกระทันหันเหมือน “กระเป๋า” ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ ถ้าถามว่าตอนที่ออฟฟิศประกาศเลย์ออฟตอนนั้นรู้สึกยังไงบอกตรงๆใครๆก็บอกว่าผมดูนิ่งมากครับ แทบไม่มีอาการตระหนก ตกใจ โวยวาย ร้องให้ใดๆเลย แถมยังช่วยสามารถปลอบใครต่อใครอีกหลายคนด้วยซ้ำ แต่พอไม่กี่ชั่วโมงผ่านไป กลับมาถึงงบ้าน สมองเริ่มทำงานไปเรื่อยๆหลังจากแยกย้ายกัน โอโห ประมวลผลไม่ทันทั้งอดีตเมื่อไม่กี่ชั่วโมงหรือในใบสัญญาจ้างงานที่ใครๆก็อิจฉาต้องกลายเป็นเศษกระดาษไร้ค่า ทั้งเงินกองทุนนสมทบ 15% ทั้งเงินเดือนๆที่ 13 ทุกเดือน 12 ทั้งสวัสดิการอื่นๆอีกมากมาย ทำเอาเครียดนอนไม่หลับไปอีกยาวเลย แต่ก็นั่นแหละครับ ถ้าไม่มีเหตุการณ์วันนั้น ผมก็คงไม่มีวันนี้ ไม่ได้จะบอกว่าชีวิตดีมากมาย แต่ต้องขอบคุณทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา และต้องขอบคุณตัวเองกับคนรอบข้างที่ช่วยให้ผ่านไปได้ ดังนั้น ถ้าจะบอกว่าผมเข้าใจ “กระเป๋า” คนเขียนหนังสือเล่มนี้ก็คงไม่เป็นการพูดโอ้อวดเกินตัวไปเท่าไหร่หรอกครับ หนังสือเล่มเล็กๆ เรื่องราวสั้นๆ เพราะเอาเข้าจริงถึงจะมีแค่164 หน้า แต่ก็เต็มไปด้วยภาพประกอบ หน้าคั่นอีกมาก ที่ทำให้มีเรื่องราวจริงๆไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ที่เยอะจริงๆก็คืออารมณ์ มุมมอง กับข้อคิด […]