มะเร็ง

I Cancel my Cancer

เขียนจากประสบการณ์ตรงจากผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Hodgkin’s Lymphoma) เพียง 1% ในโลกที่มะเร็งลามเข้าสู่หัวใจ จนแทบเอาชีวิตไม่รอด.. ..ต้องบอกก่อนเลยว่าผู้เขียนหรือคุณเบลล์นั้นแทบจะเรียกว่าซวยซ้ำซวยซ้อน ซวยสามชั้นที่แม้แต่ฝาอิชิตันก็ให้ขนาดนี้ไม่ได้ เริ่มจากพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง จากนั้นก็พบว่าตัวเองเป็นวัณโรค แล้วก็พบว่าตัวเองมีก้อนมะเร็งในหัวใจ โอ้โห..อะไรจะขนาดนั้นครับ ..จากสาว 26 กำลังจะจบโทจากนอก เตรียมจะใช้ชีวิตแบบคนยุคใหม่เต็มที่แต่ทุกสิ่งที่เคยคิดและแพลนเอาไว้ต้องมาสะดุดลงหมด เพราะจากอาการวูบสลบที่คิดว่าแค่ไม่สบายที่อังกฤษ ก็เลยคิดว่าจะบินกลับมาไทยเพื่อมาตรวจร่างกายเล็กน้อยและฉีดยานิดหน่อยแล้วก็บินกลับไปสอบ ป.โท กับทำวิทยานิพนธ์อีกนิดหน่อยให้จบ กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตที่ไม่มีวันย้อนกลับอีกต่อไป.. ..เพราะเธอได้พบเจอมะเร็งที่อยู่ในปอด และลามไปส่วนอื่นๆของร่างกาย จนครอบครัวถึงกับช็อคเพราะไม่เข้าใจว่าเป็นไปได้ยังไง แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปต้องกลายเป็นผู้ป่วยมะเร็งเต็มตัวที่หมอว่าเหลือเวลาไม่ถึง 6 เดือน ..เริ่มจากการตรวจร่างกายอย่างละเอียดทุกส่วน เพื่อค้นหาให้เจอว่าต้นเหตุของปัญหาอยู่ตรงไหน…

The Last Lecture

เลกเชอร์ครั้งสุดท้ายที่สร้าวแรงบันดาลใจแก่คนนับล้านทั่วโลก สมมติว่าถ้าคุณตรวจพบว่าคุณเป็นโรคมะเร็งในระยะลุกลามและกำลังจะตายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า คุณจะทำอย่างไร?และถ้าคุณเองมีลูกเล็กๆที่แสนจะน่ารัก 3 คนในขณะนั้นล่ะ คุณจะทิ้งอะไรไว้ให้เค้า? หลายคนอาจจะคิดหาทางทิ้งมรกดที่เป็นทรัพย์สินเงินทองไว้ให้ครอบครัวมากที่สุด เพราะเมื่อตัวเองจากไปแล้วพวกเค้าจะได้ลำบากน้อยที่สุดเมื่อไม่มีคุณ แต่ชายผู้นี้ แรนดี เพาซ์ ชายในวัยสี่สิบปลายๆที่มีชีวิตการทำงานที่ดีเป็นศาสตราจารย์ประจำในมหาวิทยาลัยชื่อดังในอเมริกา เลือกที่จะใช้เวลาช่างท้ายสุดของชีวิตไม่กี่เดือนกับการมุ่งมั่นตั้งใจขึ้นพูดปาฐกถาที่มหาวิทยาลัยคาเนกี เมลอน เป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตทิ้งไว้เป็นมรดกให้ลูกๆทั้ง 3 แล้วมันจะถึงลูกๆทั้งสามได้อย่างไรตรงนี้แหละที่น่าคิด แรนดี เพาซ์ มองว่าเค้าจะทำยังไงที่จะได้เหมือนอยู่สอนลูกๆเค้าไปจนโต จนพร้อมที่จะออกไปผจญชีวิตภายนอกเต็มตัวในวันข้างหน้าได้ นั่นก็คือการฝากความคิดและประสบการณ์ทั้งหมดในชีวิตทิ้งไว้ให้กับโลก เพื่อให้โลกนี้ส่งต่อให้ลูกๆเค้าทั้ง 3 คน เพราะการพูดครั้งนี้ได้พูดต่อหน้าคนหลายร้อยจนถึงพันคน และยังมีการถ่ายเก็บบันทึกทั้งหมดไว้เป็นหลักฐานให้ลูกค้าได้ทบทวนดูทุกครั้งเมื่อคิดถึงพ่อผู้ล่วงลับไปแล้ว เค้าตั้งใจให้ลูกๆเค้ารู้สึกว่าพ่อของเค้านั้นพิเศษแค่ไหนและยิ่งใหญ่เพียงใด เรื่องที่เป็นหัวข้อในการพูดครั้งสุดท้ายของเค้าคือการใช้ชีวิตตามความฝัน แรนดี…