พระเจ้าอยู่ในรายละเอียด MUJI
แบรนด์ที่หลายคนคุ้นหู หลายคนรู้จัก หลายคนอาจจะมีปากกาซักด้ามหรือสมุดซักเล่ม และหลายคนก็ถึงขั้นเป็นสาวก MUJI ตัวจริง หลายครั้งที่เวลาผมได้ยินคนใกล้ตัวใช้คำว่า MUJI หรือ มูจิ อธิบายถึงอะไรบางอย่าง ที่ต้องการจะสื่อว่าของสิ่งนั้นดูน้อยๆแต่มีคุณค่ามากๆ หรือจะสื่อถึงแนวคิดแบบ Minimalism หรือแม้แต่จะคำว่า มูจิ นิยามไปถึงแนวคิดแบบ Less is More และสุดท้ายหมายถึงอะไรที่ญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น ในความคิดของบางคนซะเหลือเกิน ทำไมชื่อแบรนด์อย่าง MUJI ถึงกลายเป็นคำนิยามสามัญของคนหลาคนไปได้? เพราะมูจิเอง เป็นแบรนด์ที่มีความชัดเจนตั้งแต่การออกแบบ และย้อนไปจนถึงแนวคิดที่มาของการออกแบบนั้น อะไรที่ไม่จำเป็นก็จะถูกตัดทิ้งไป พยายามปรุงแต่งให้น้อยที่สุด ให้เหลือแต่สิ่งที่จำเป็นเท่านั้นปรากฏขึ้นมา กลับกลายเป็นว่ายิ่งน้อยคาแรคเตอร์ของแบรนด์ก็ยิ่งชัด ทั้งหมดนี้ทำให้มูจิไม่เหมือนใคร และยากที่จะมีใครเหมือนได้ แต่กว่าที่มูจิจะเป็นที่ประทับใจใครต่อใครหลายคนไปทั่วได้อย่างทุกวันนี้ ใครจะรู้ว่าก่อนหน้านี้มูจิเองก็เคยประสบภาวะวิกฤตตัวแดงทางบัญชี หรือเกือบจะล้มละลายมาก่อน แต่มูจิก็สามารถผ่านวิกฤตนั้นในช่วงปี 2000 มาได้ ด้วยการปฏิรูปธุรกิจครั้งสำคัญ ไม่ใช่ด้วยการเลิกจ้างพนักงาน ไม่ใช่ด้วยการลดเงินเดือน ไม่ใช่ด้วยการตัดสวัสดิการ ไม่ใช่ด้วยการไล่ปิดสาขา และไม่ใช่ด้วยการขายธุรกิจออกไปเพื่อเพิ่มสภาพคล่องแบบที่ผู้บริหารส่วนใหญ่ทำกัน แต่ด้วยการสร้าง “คู่มือการทำงาน” หรือที่มีชื่อเรียกว่า MUJIGRAM ขึ้นมาอย่างจริงจัง และคู่มือแนวทางการทำงานนี้ก็ทำให้มูจิกลับมาทำผลงานได้ดีจนมีกำไร จนถึงขั้นมีรายได้สูงสุดในประวัติการของมูจิเอง จนกลายเป็นแบรนด์ที่คนหลายคนบนโลกรู้จักและหลงไหลในทุกวันนี้ คู่มือการทำงาน ของมูจินี้ไม่เหมือนใคร […]